นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า อุตสาหกรรมวาระสุดท้ายของชีวิต หรือ Life Ending Industry เป็นธุรกิจบริการที่ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ จากสถิติปี 2543 ญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตถึง 1 ล้านคน และคาดการณ์ว่าปี 2563 จะมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1.43 ล้านคน ทำให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพิธีศพมีแนวโน้มขยายตัวตามไปด้วย ทั้งนี้ สถาบันวิจัยยาโนะเคยสำรวจตลาดธุรกิจการจัดพิธีศพในญี่ปุ่นพบว่าปี 2556 มีมูลค่าตลาดประมาณ 590,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 0.3 ด้วยรูปแบบที่มีความหลากหลายมากขึ้นและการขยายตัวของตลาดในธุรกิจนี้ ทำให้มีผู้เข้ามาบุกตลาดนี้จากหลายวงการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทค้าปลีกอย่างอิออน หรือบริษัทผู้ให้บริการด้านการขนส่ง นอกจากนี้ ยังขยายขอบเขตไปถึงงานศพสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งชาวญี่ปุ่นจำนวนมากรักสัตว์เลี้ยงและมีความผูกพันเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูง แต่เจ้าของก็เต็มใจที่จะจ่าย
สำหรับสินค้าไทยที่มีโอกาสในตลาดนี้ ได้แก่ เครื่องประดับสำหรับบรรจุอัฐิเพื่อใส่ติดตัว โถบรรจุอัฐิ แท่นบูชา ดอกไม้สด เครื่องแต่งกายและชุดเข้าร่วมพิธี รวมทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดงานศพสัตว์เลี้ยง เช่น โลงกระดาษ ชุดสำหรับสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อการรำลึกถึง คนญี่ปุ่นในปัจจุบันเปิดกว้างทางความคิดและมีทัศนคติเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้รูปแบบการจัดงานตามขนบธรรมเนียมกลายเป็นแบบฟรีสไตล์ไม่ยึดติดกับประเพณีที่เศร้าโศก และมีจุดประสงค์ที่จะส่งคนรักครั้งสุดท้ายด้วยความสุข มีสีสันสดใส ตกแต่งสถานที่ด้วยของรักของชอบของผู้เสียชีวิต ผู้ประกอบการไทยจึงควรมีไอเดียใหม่ ๆ ในการผลิตสินค้าเพื่ออุตสาหกรรมนี้และเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคญี่ปุ่นในอนาคต
สำหรับสินค้าไทยที่มีโอกาสในตลาดนี้ ได้แก่ เครื่องประดับสำหรับบรรจุอัฐิเพื่อใส่ติดตัว โถบรรจุอัฐิ แท่นบูชา ดอกไม้สด เครื่องแต่งกายและชุดเข้าร่วมพิธี รวมทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดงานศพสัตว์เลี้ยง เช่น โลงกระดาษ ชุดสำหรับสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อการรำลึกถึง คนญี่ปุ่นในปัจจุบันเปิดกว้างทางความคิดและมีทัศนคติเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้รูปแบบการจัดงานตามขนบธรรมเนียมกลายเป็นแบบฟรีสไตล์ไม่ยึดติดกับประเพณีที่เศร้าโศก และมีจุดประสงค์ที่จะส่งคนรักครั้งสุดท้ายด้วยความสุข มีสีสันสดใส ตกแต่งสถานที่ด้วยของรักของชอบของผู้เสียชีวิต ผู้ประกอบการไทยจึงควรมีไอเดียใหม่ ๆ ในการผลิตสินค้าเพื่ออุตสาหกรรมนี้และเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคญี่ปุ่นในอนาคต