พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายคมนาคมระดับสูง (ซุปเปอร์บอร์ด) เพื่อการแก้ปัญหาการจราจรของกรุงเทพมหานคร ว่า การแก้ปัญหาการจราจรมีคณะกรรมการหลายคณะ ซึ่งต่างก็แก้ของตัวเองมาโดยตลอด วันนี้ตนก็ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการดูแลให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหลายอย่างที่เป็นปัญหาแก้ไม่ได้ ต้องเน้นสร้างการรับรู้ของประชาชน ไม่ใช่ให้รัฐบาลไปสั่งทั้งหมด หากประชาชนอยากให้ดีขึ้นก็ต้องร่วมมือ ถ้ายอมเปลี่ยนแปลงก็อยู่ที่เดิม ทั้งนี้ในต่างประเทศมีการแก้ปัญหาจราจรโดยการจัดวงจรการเดินรถใหม่ แต่ประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะไม่ยินยอมกัน และมีการกำหนดให้เดินรถเลขคู่เลขคี่ แต่เราก็ทำไม่ได้อีก ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เลย จึงแก้ปัญหาลำบาก รวมถึงการสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน รถไฟ รถไฟฟ้า หรือการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่ม ก็ทำให้การจราจรติดขัด ทั้งหมดถือเป็นปัญหาการเจริญเติบโตที่ไม่มีคุณภาพของเรา รัฐบาลจึงต้องมาตามแก้ในวันนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการจัดอันดับของสำนักข่าวต่างประเทศ ให้กรุงเทพมหานครเป็นแชมป์เมืองที่รถติดที่สุดในโลก ว่า หลังได้รับข้อมูลดังกล่าว ตนก็ได้สั่งการไปแล้วให้ไปหามาตรการเพิ่มเติมมา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอด แต่ปัญหามีอย่างเดียวคือกรุงเทพฯ แออัดเกินไป จึงต้องหามาตรการใหม่ๆ พร้อมการสร้างการรับรู้ ส่วนจะยอมได้เพียงใด ในเรื่องมาตรการจอดรถ การใช้รถ หรือการวิ่งรถที่บางเส้นต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ แต่หากทุกคนคิดแบบเดิมตนก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งในต่างประเทศหากจะซื้อรถต้องมีที่จอดรถก่อน แต่ในเมืองไทยยอมหรือไม่ ทุกคนอยากซื้อรถ บางคนขับรถยังไม่เป็นก็ซื้อตามนโยบายรถคันแรก ซึ่งต้องย้อนกลับไปดูด้วย ถึงจะแก้ปัญหาได้ หากทุกคนไม่รู้ปัญหาก็แก้ไม่ได้ จะให้รัฐบาลออกกฎหมายบังคับใช้ก็จะโดนด่าทุกวัน ทั้งตำรวจและรัฐบาล แต่ยืนยันว่าอะไรที่ต้องทำ ก็จะทำ เพราะตนไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่จะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการจัดอันดับของสำนักข่าวต่างประเทศ ให้กรุงเทพมหานครเป็นแชมป์เมืองที่รถติดที่สุดในโลก ว่า หลังได้รับข้อมูลดังกล่าว ตนก็ได้สั่งการไปแล้วให้ไปหามาตรการเพิ่มเติมมา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอด แต่ปัญหามีอย่างเดียวคือกรุงเทพฯ แออัดเกินไป จึงต้องหามาตรการใหม่ๆ พร้อมการสร้างการรับรู้ ส่วนจะยอมได้เพียงใด ในเรื่องมาตรการจอดรถ การใช้รถ หรือการวิ่งรถที่บางเส้นต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ แต่หากทุกคนคิดแบบเดิมตนก็ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งในต่างประเทศหากจะซื้อรถต้องมีที่จอดรถก่อน แต่ในเมืองไทยยอมหรือไม่ ทุกคนอยากซื้อรถ บางคนขับรถยังไม่เป็นก็ซื้อตามนโยบายรถคันแรก ซึ่งต้องย้อนกลับไปดูด้วย ถึงจะแก้ปัญหาได้ หากทุกคนไม่รู้ปัญหาก็แก้ไม่ได้ จะให้รัฐบาลออกกฎหมายบังคับใช้ก็จะโดนด่าทุกวัน ทั้งตำรวจและรัฐบาล แต่ยืนยันว่าอะไรที่ต้องทำ ก็จะทำ เพราะตนไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่จะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน