กลุ่มนักศึกษาจากเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่พร้อมเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา เข้ายื่นจดหมายถึง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อคัดค้านกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ข้ามชาติที่ร่วมก่อตั้งเป็นมูลนิธิแก้ไขปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทำความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดตัวโครงการ Smashed วัยใสไกลแอลกอฮอล์ เพื่อทำกิจกรรมที่อ้างว่าช่วยยับยั้งวัฒนธรรมการดื่มสุราของเยาวชน ตั้งเป้า 40 โรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเครือข่ายฯ มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากบริษัทสามารถสอดแทรกเนื้อหาที่ทำให้เด็กจำผลิตภัณฑ์และเข้าใจว่าการดื่มเป็นเรื่องที่ทำได้เมื่อถึงวัยอันควร ซึ่งคิดว่าควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่มีส่วนกับการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ จึงยื่นข้อเสนอดังนี้ 1.คัดค้านการเข้ามาทำกิจกรรมในสถานศึกษาของมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.ขอให้กระทรวงมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่สนับสนุนให้สถานศึกษาต่างๆ ร่วมกิจกรรมกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ 3.เรียกร้องให้นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ แสดงจุดยืนต่อต้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ และ 4.ขอให้กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรายหยุดทำกิจกรรมที่มุ่งเข้าหาเด็กและเยาวชนโดยสิ้นเชิง ถ้าอยากรับผิดชอบสังคมขอให้ไปดูแลครอบครัวของเหยื่อจากน้ำเมา ที่เสียชีวิตปีละกว่า 2.6 หมื่นคน และปัจจุบันมีนักดื่มประมาณ 17 ล้านคน เป็นนักดื่มเยาวชน 2.5 ล้านคน เด็กและเยาวชนในสภานพินิจร้อยละ40 ก่อคดีหลังจากการดื่ม
ด้านนายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า รับทราบถึงข้อร้องเรียนและจะยื่นรายละเอียดให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อไป ซึ่งส่วนตัวมองว่าการปฏิเสธไม่ให้องค์กรต่างๆ เข้ามาจัดกิจกรรมกับเยาวชนเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม จะควบคุมและดูแลการทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ก็จะยกเลิกกิจกรรมนั้นๆ ทันที ถึงแม้จะทำความร่วมมือกัน แต่จะให้กีดกันตั้งแต่ครั้งแรกโดยไม่ได้ดูการจัดกิจกรรมเลย คงทำไม่ได้
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ จึงยื่นข้อเสนอดังนี้ 1.คัดค้านการเข้ามาทำกิจกรรมในสถานศึกษาของมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.ขอให้กระทรวงมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่สนับสนุนให้สถานศึกษาต่างๆ ร่วมกิจกรรมกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ 3.เรียกร้องให้นักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์ แสดงจุดยืนต่อต้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ และ 4.ขอให้กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรายหยุดทำกิจกรรมที่มุ่งเข้าหาเด็กและเยาวชนโดยสิ้นเชิง ถ้าอยากรับผิดชอบสังคมขอให้ไปดูแลครอบครัวของเหยื่อจากน้ำเมา ที่เสียชีวิตปีละกว่า 2.6 หมื่นคน และปัจจุบันมีนักดื่มประมาณ 17 ล้านคน เป็นนักดื่มเยาวชน 2.5 ล้านคน เด็กและเยาวชนในสภานพินิจร้อยละ40 ก่อคดีหลังจากการดื่ม
ด้านนายแพทย์กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า รับทราบถึงข้อร้องเรียนและจะยื่นรายละเอียดให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อไป ซึ่งส่วนตัวมองว่าการปฏิเสธไม่ให้องค์กรต่างๆ เข้ามาจัดกิจกรรมกับเยาวชนเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม จะควบคุมและดูแลการทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ก็จะยกเลิกกิจกรรมนั้นๆ ทันที ถึงแม้จะทำความร่วมมือกัน แต่จะให้กีดกันตั้งแต่ครั้งแรกโดยไม่ได้ดูการจัดกิจกรรมเลย คงทำไม่ได้
