นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าว่าข้อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ตั้งพรรคและลงเลือกตั้งเป็นข้อเสนอหลงโลก ไม่เป็นประโยชน์และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ เป็นเพียงโวหารเก่าๆจากการเมืองเก่าๆ ที่ติดอยู่กับลัทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองที่ล้มเหลวหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ลุ่มหลงกับโวหารเช่นนี้เพราะเป็นกับดักทางการเมืองที่ฆ่านายพลมาแล้วหลายคน
ดังนั้นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรตระหนักที่สุดในขณะนี้คือต้องกล้าวิจารณ์ตนเอง และทบทวนว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมาและอีกปีกว่าก่อนเลือกตั้ง คสช.ได้ทำให้สังคมการเมืองเข้าสู่การปฏิรูปได้จริงหรือไม่ และมีหลักประกันได้หรือไม่ว่าการเมืองไทยจะไม่วนกลับไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งอีก
อีกทั้งในช่วงนี้เริ่มเห็นบรรดานักการเมืองเคลื่อนไหวแสดงตนกันมากขึ้น โดยที่ยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดปฏิรูปตัวเองเลย ยังเถียงกันอยู่ในประเด็นนายกฯคนในหรือคนนอก ยิ่งน่าเป็นห่วงว่าการเมืองไทยจะก้าวไม่พ้นความแตกแยก ซึ่งการออกแบบกฎหมายพรรคการเมืองต้องวางกลไกปฏิรูปพรรคการเมืองให้ชัดเจนด้วย ซึ่งในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังถูกกลุ่มก้อนการเมืองหลายกลุ่มรุมล้อมและอาจถูกฉุดกระชากไปอยู่ในวงโคจรของการเมือง ทีไม่ได้แก้ปัญหาประเทศ จนทำให้ความคาดหวังของประชาชนหดหายและไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องระวังและควรใช้ต้นทุนที่มีในขณะนี้ เป็นผู้นำในการปฏิรูปในเรื่องใหญ่ๆ ให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง
"ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่านักการเมืองในขณะนี้ เป็นเพียงกระแสฉาบฉวยมาแล้วก็หาย และไม่มีใครอยู่ยั่งยืนได้ด้วยกระแส แต่ผลงานที่เป็นวีรกรรมต่างหากที่ทำให้คนกลายเป็นรัฐบุรุษและถูกบันทึกในประวัติศาสตร์"นายสุริยะใส กล่าว
ด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสมาธิกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะล่าสุดปัญหาพืชผลการเกษตรที่ถูกน้ำท่วม ถูกน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 8 จังหวัดทางภาคเหนือตอนบน ปัจจุบันนี้หลายพื้นที่น้ำท่วมผ่านไปแล้ว และอีกหลายพื้นที่กำลังอยู่ระหว่างเผชิญปัญหา แม้หลายจังหวัดที่เกิดปัญหาน้ำท่วมจะเป็นจังหวัดที่ประชามติไม่ผ่าน แต่ก็อยากให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรฐานเดียวกัน โดยส่วนตัวเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีความเมตตาต่อประชาชนเป็นทุนอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากให้รับเฉพาะรายงานจากระบบราชการที่ไม่ได้ได้ยึดโยงกับประชาชน
ทั้งนี้ขอให้นายกรัฐมนตรีโปรดอย่าหลงใหลได้ปลื้มไปกับกองเชียร์ที่ลุกขึ้นมาเชียร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกนับตั้งแต่เวลานี้ แม้ว่าโอกาสจะเป็นไปได้ก็ตาม แต่การรับลูกหรือตอบคำถามนักข่าวในประเด็นทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องอำนาจของตัวเองมากจนเกินไปจะเป็นการผิดกาลเทศะในสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน
ดังนั้นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรตระหนักที่สุดในขณะนี้คือต้องกล้าวิจารณ์ตนเอง และทบทวนว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมาและอีกปีกว่าก่อนเลือกตั้ง คสช.ได้ทำให้สังคมการเมืองเข้าสู่การปฏิรูปได้จริงหรือไม่ และมีหลักประกันได้หรือไม่ว่าการเมืองไทยจะไม่วนกลับไปสู่ความแตกแยกขัดแย้งอีก
อีกทั้งในช่วงนี้เริ่มเห็นบรรดานักการเมืองเคลื่อนไหวแสดงตนกันมากขึ้น โดยที่ยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดปฏิรูปตัวเองเลย ยังเถียงกันอยู่ในประเด็นนายกฯคนในหรือคนนอก ยิ่งน่าเป็นห่วงว่าการเมืองไทยจะก้าวไม่พ้นความแตกแยก ซึ่งการออกแบบกฎหมายพรรคการเมืองต้องวางกลไกปฏิรูปพรรคการเมืองให้ชัดเจนด้วย ซึ่งในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังถูกกลุ่มก้อนการเมืองหลายกลุ่มรุมล้อมและอาจถูกฉุดกระชากไปอยู่ในวงโคจรของการเมือง ทีไม่ได้แก้ปัญหาประเทศ จนทำให้ความคาดหวังของประชาชนหดหายและไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องระวังและควรใช้ต้นทุนที่มีในขณะนี้ เป็นผู้นำในการปฏิรูปในเรื่องใหญ่ๆ ให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง
"ความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่านักการเมืองในขณะนี้ เป็นเพียงกระแสฉาบฉวยมาแล้วก็หาย และไม่มีใครอยู่ยั่งยืนได้ด้วยกระแส แต่ผลงานที่เป็นวีรกรรมต่างหากที่ทำให้คนกลายเป็นรัฐบุรุษและถูกบันทึกในประวัติศาสตร์"นายสุริยะใส กล่าว
ด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสมาธิกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะล่าสุดปัญหาพืชผลการเกษตรที่ถูกน้ำท่วม ถูกน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 8 จังหวัดทางภาคเหนือตอนบน ปัจจุบันนี้หลายพื้นที่น้ำท่วมผ่านไปแล้ว และอีกหลายพื้นที่กำลังอยู่ระหว่างเผชิญปัญหา แม้หลายจังหวัดที่เกิดปัญหาน้ำท่วมจะเป็นจังหวัดที่ประชามติไม่ผ่าน แต่ก็อยากให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรฐานเดียวกัน โดยส่วนตัวเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีความเมตตาต่อประชาชนเป็นทุนอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากให้รับเฉพาะรายงานจากระบบราชการที่ไม่ได้ได้ยึดโยงกับประชาชน
ทั้งนี้ขอให้นายกรัฐมนตรีโปรดอย่าหลงใหลได้ปลื้มไปกับกองเชียร์ที่ลุกขึ้นมาเชียร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกนับตั้งแต่เวลานี้ แม้ว่าโอกาสจะเป็นไปได้ก็ตาม แต่การรับลูกหรือตอบคำถามนักข่าวในประเด็นทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องอำนาจของตัวเองมากจนเกินไปจะเป็นการผิดกาลเทศะในสถานการณ์ที่พี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน
