นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "ขายทอดตลาดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของกลางโดยวิธีประมูลด้วยวาจา" ว่า ในวันนี้ (23 ส.ค.) กรมศุลกากร เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลรถยนต์ของกลางที่ทางกรมศุลกากรตรวจยึดมาได้ ทั้งหมด จำนวน 339 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 269 คัน และรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ 70 คัน ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาร่วมประมูลค่อนข้างมาก เนื่องจากราคารถเริ่มต้นที่ต่ำกว่าราคาท้องตลาดค่อนข้างมาก หลังจากนั้นทำการปรับปรุงสภาพตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนดเป็นรถที่มีสมองกลครบถ้วน และไม่มีสภาพเป็นรถจดประกอบ สามารถนำไปจดทะเบียนได้ เบื้องต้นคาดว่าการเปิดประมูลในครั้งนี้จะสามารถสร้างรายได้แก่ภาครัฐไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้ส่งมอบรถยนต์ของกลางยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นเอสติม่า จำนวน 1 คัน ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศมาเลเซียคืนให้กับเอกอัคราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เพื่อนำส่งคืนเจ้าของรถยนต์ต่อไป
นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้ส่งมอบรถยนต์ของกลางยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นเอสติม่า จำนวน 1 คัน ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศมาเลเซียคืนให้กับเอกอัคราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เพื่อนำส่งคืนเจ้าของรถยนต์ต่อไป