นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการตั้งกองทุนหมุนเวียน 4 กองทุน รองรับภารกิจด้านต่างๆ ของรัฐบาล ประกอบด้วย 1.กองทุนหมุนเวียนสนับสนุนการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) เพื่อรองรับการจ่ายเงินให้กับนักลงทุนผู้ซื้อหน่วยลงทุน ซึ่งได้ประกันผลตอบแทนร้อยละ 2-3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณานำโครงการที่มีอยู่แล้วนำมาระดมทุน เช่น มอเตอร์เวย์หมายเลข 7,9 กรุงเทพฯ-ชลบุรีและกรุงเทพฯ-บางปะอิน เมื่อระดมทุนได้แล้วจะได้นำเงินมาพัฒนาด้านต่างๆ เพิ่มเติม ขณะนี้กำลังเสนอแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อนำเงินจากการจัดเก็บเงินค่าผ่านทางมาจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุน
2.การตั้งกองทุนหมุนเวียนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต้องการใช้เงินจากกองทุนมาใช้ร่วมทุนกับผู้ประกอบการ Start Up รวมทั้งกำหนดแนวทางการการคืนผลตอบแทนให้กับกองทุนเมื่อธุรกิจมีผลกำไร เพื่อนำเงินใช้ไปร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการรายอื่นที่มีศักยภาพ และสนับสนุนการนำงานวิจัยมาพัฒนาให้เกิดผลในเชิงพาณิชย์
3.การเปลี่ยนกองทุนหมุนเวียน โครงการอาหารกลางวัน จากเดิมอยู่ในการดูแลของกระทรวงการคลังให้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยกำหนดให้จัดสรรอาหารกลางวันสำหรับเด็กอนุบาล นักเนียนในระดับภาคบังคับ และครอบคลุมให้กับนักเรียนที่มีปัญหาด้านโภชนาการ
4.การตั้งกองทุนหมุนเวียน รองรับการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้เป็นกองทุนภาคบังคับให้บริษัทเอกชน องค์กรอิสระ องค์การมหาชน ส่วนราชการ ต้องจัดตั้งกองทุน กบช. เพื่อนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นรายเดือน โดยมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 11.4 ล้านคน และขณะนี้ไทยกำลังก้าวสู่สังคมวัยชรา เนื่องจากไทยกำลังก้าวสู่สังคมวัยชรา 20 ล้านคนภายใน 5 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนไทยได้สะสมเงินสมทบเข้ากองทุนพร้อมนายจ้างและส่วนราชการ หวังให้มีรายได้ใช้ในยามเกษียณอายุทำงาน โดยกองทุนทั้งหมดจะใช้เงินงบประมาณเข้าไปสมทบเบื้องต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหรือในขั้นกรรมาธิการของสภา สนช. คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.กองทุน กบช.คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจาณาภายในเดือนสิงหาคมนี้
2.การตั้งกองทุนหมุนเวียนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต้องการใช้เงินจากกองทุนมาใช้ร่วมทุนกับผู้ประกอบการ Start Up รวมทั้งกำหนดแนวทางการการคืนผลตอบแทนให้กับกองทุนเมื่อธุรกิจมีผลกำไร เพื่อนำเงินใช้ไปร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการรายอื่นที่มีศักยภาพ และสนับสนุนการนำงานวิจัยมาพัฒนาให้เกิดผลในเชิงพาณิชย์
3.การเปลี่ยนกองทุนหมุนเวียน โครงการอาหารกลางวัน จากเดิมอยู่ในการดูแลของกระทรวงการคลังให้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยกำหนดให้จัดสรรอาหารกลางวันสำหรับเด็กอนุบาล นักเนียนในระดับภาคบังคับ และครอบคลุมให้กับนักเรียนที่มีปัญหาด้านโภชนาการ
4.การตั้งกองทุนหมุนเวียน รองรับการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้เป็นกองทุนภาคบังคับให้บริษัทเอกชน องค์กรอิสระ องค์การมหาชน ส่วนราชการ ต้องจัดตั้งกองทุน กบช. เพื่อนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นรายเดือน โดยมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 11.4 ล้านคน และขณะนี้ไทยกำลังก้าวสู่สังคมวัยชรา เนื่องจากไทยกำลังก้าวสู่สังคมวัยชรา 20 ล้านคนภายใน 5 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนไทยได้สะสมเงินสมทบเข้ากองทุนพร้อมนายจ้างและส่วนราชการ หวังให้มีรายได้ใช้ในยามเกษียณอายุทำงาน โดยกองทุนทั้งหมดจะใช้เงินงบประมาณเข้าไปสมทบเบื้องต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหรือในขั้นกรรมาธิการของสภา สนช. คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.กองทุน กบช.คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจาณาภายในเดือนสิงหาคมนี้