นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ว่า ที่ประชุมครม.ได้สั่งการกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในการหารือร่วมกันเพื่อ กำหนดหลักเกณฑ์ในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าในประเทศ รถโดยสารไฟฟ้า และรถยนต์นั่งขนาดเล็กระบบไฟฟ้าให้กับกลุ่มบริษัทที่สนใจยื่นแผนดำเนินการ แผนลงทุน หรือชิ้นส่วนที่สำคัญ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีการนำเข้ารถไฟฟ้าสำเร็จรูป หรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องที่ยังไม่มีการผลิต ในช่วงเริ่มต้นของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ผลิต
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการกรมการขนส่งทางบก ให้ทบทวนประกาศกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่ปัจจุบันกำหนดกำลังวัตต์ที่ 15 กิโลวัตต์ ให้ปรับลดลง เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นที่สนใจจะลงทุน แต่มีปัญหาเรื่องกำลังวัตต์ดังกล่าว ซึ่งหากมีการปรับลดลงได้จะเริ่มเข้ามาลงทุนในช่วงต้นปีหน้า
การยกเว้นอากรนำเข้า รถไฟฟ้าสำเร็จรูป บริษัทที่สนใจจะต้องยื่นแผนดำเนินการ แผนลงทุน ผลิตชิ้นส่วนสำคัญเช่น แบต ระบบการจ่ายไฟฟ้า มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้ และอื่นๆ เมื่อได้รับการส่งเสริมการลงทุน นำเข้ารถยนต์ ยกเว้นภาษีนำเข้า จากกลุ่มที่นำเข้า รถไฟฟ้าสำเร็จรูปในช่วงของการเริ่มต้น ได้สั่งการว่า ให้ทางกรมขนส่งทางบก ทบทวนประกาศ ของกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก มีบริษัทญี่ปุ่นที่สนใจ แต่กำลังวัตต์ ที่ 15 กิโลวัตต์ จะมีการปรับลง จะเริ่มเข้ามาลงทุนในต้นปีหน้าได้ หากมีการปรับ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เป็นรากฐานการผลิต และนำไปสู่ความเข้มแข็ง การแข่งขันของประเทศ ในเรื่องของสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ เมื่อดูแนวโน้มของโลกทิศทางยานยนต์ของโลกมุ่งไปสู่ การขับขี่ยั่งยืน รถยนต์ที่สะอาด ประหยัด ปลอดภัย ซึ่งหลายคน คิดถึงเรื่องรถยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ข้อมูลล่าสุด องค์กรพลังงานโลก บอกว่า ในปี 57 ที่ผ่านมา มียานยนต์ 89 ล้านคัน ซึ่งประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือ 1.2% ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นปีละ 53% อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในปี 2563 อีกประมาณ 4 ปีข้างหน้าจะมีรถมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่าเดิมจำนวนมาก
สำหรับไทยจะต้องเตรียมการเรียนรู้ และเริ่มต้นใช้ เพื่อให้ไทยก้าวไปอีกชั้นของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และให้สอดรับกับนิวเอสเคิฟ และซูเปอร์คลัสเตอร์ โดยกลุ่มกลุ่มที่สนับสนุนจะเป็น 3 กลุ่ม คือ รถยนต์นั่งไฟฟ้า รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และ รถโดยสารไฟฟ้า ขณะเดียวกันรัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วนระยะสั้น เพื่อให้มีการนำรถโดยสารไฟฟ้ามาใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยสั่งการขสมก. ให้มีการจัดซื้อทั้งสิ้น 200 คัน
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการกรมการขนส่งทางบก ให้ทบทวนประกาศกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่ปัจจุบันกำหนดกำลังวัตต์ที่ 15 กิโลวัตต์ ให้ปรับลดลง เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นที่สนใจจะลงทุน แต่มีปัญหาเรื่องกำลังวัตต์ดังกล่าว ซึ่งหากมีการปรับลดลงได้จะเริ่มเข้ามาลงทุนในช่วงต้นปีหน้า
การยกเว้นอากรนำเข้า รถไฟฟ้าสำเร็จรูป บริษัทที่สนใจจะต้องยื่นแผนดำเนินการ แผนลงทุน ผลิตชิ้นส่วนสำคัญเช่น แบต ระบบการจ่ายไฟฟ้า มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้ และอื่นๆ เมื่อได้รับการส่งเสริมการลงทุน นำเข้ารถยนต์ ยกเว้นภาษีนำเข้า จากกลุ่มที่นำเข้า รถไฟฟ้าสำเร็จรูปในช่วงของการเริ่มต้น ได้สั่งการว่า ให้ทางกรมขนส่งทางบก ทบทวนประกาศ ของกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก มีบริษัทญี่ปุ่นที่สนใจ แต่กำลังวัตต์ ที่ 15 กิโลวัตต์ จะมีการปรับลง จะเริ่มเข้ามาลงทุนในต้นปีหน้าได้ หากมีการปรับ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เป็นรากฐานการผลิต และนำไปสู่ความเข้มแข็ง การแข่งขันของประเทศ ในเรื่องของสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ เมื่อดูแนวโน้มของโลกทิศทางยานยนต์ของโลกมุ่งไปสู่ การขับขี่ยั่งยืน รถยนต์ที่สะอาด ประหยัด ปลอดภัย ซึ่งหลายคน คิดถึงเรื่องรถยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ข้อมูลล่าสุด องค์กรพลังงานโลก บอกว่า ในปี 57 ที่ผ่านมา มียานยนต์ 89 ล้านคัน ซึ่งประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือ 1.2% ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นปีละ 53% อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในปี 2563 อีกประมาณ 4 ปีข้างหน้าจะมีรถมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่าเดิมจำนวนมาก
สำหรับไทยจะต้องเตรียมการเรียนรู้ และเริ่มต้นใช้ เพื่อให้ไทยก้าวไปอีกชั้นของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และให้สอดรับกับนิวเอสเคิฟ และซูเปอร์คลัสเตอร์ โดยกลุ่มกลุ่มที่สนับสนุนจะเป็น 3 กลุ่ม คือ รถยนต์นั่งไฟฟ้า รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และ รถโดยสารไฟฟ้า ขณะเดียวกันรัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วนระยะสั้น เพื่อให้มีการนำรถโดยสารไฟฟ้ามาใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยสั่งการขสมก. ให้มีการจัดซื้อทั้งสิ้น 200 คัน