ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.29 จุด ลดลง 14.24 จุด หรือ -0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.14 จุด ลดลง 7.98 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.89 จุด ลดลง 1.98 จุด, -0.09%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 190 จุดเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากกระทรวงแรงงานเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขดังกล่าวดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
หุ้นวอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก ปรับตัวลง 0.6% หลังจากมีรายงานว่า วอลมาร์ทบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Jet.com ธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลีกผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นเงิน 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า ภายหลังการซื้อกิจการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 แบรนด์ได้วางแผนที่จะใช้แบรนด์แยกจากกันต่อไป โดยเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าของวอลมาร์ทจะยังคงใช้กลยุทธจำหน่ายสินค้าราคาถูก ส่วน Jet.com จะยังคงเจาะกลุ่มลูกค้าชาวมิลเลนเนียล
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 0.6% หลังจากมีรายงานว่า เดลต้า แอร์ไลน์ประกาศระงับเที่ยวบินขาออกทั่วโลก เพราะเหตุไฟฟ้าดับในเมืองแอตแลนตาได้ส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ของสายการบินฯ จนส่งผลให้เที่ยวบินทั่วโลกของเดลต้าต้องล่าช้ากว่ากำหนดหรือถูกยกเลิก
อย่างไรก็ตาม เดลต้า แอร์ไลน์ ได้เริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินบางส่วนได้ตามปกติแล้วในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยเที่ยวบินขาออกบางเที่ยวบินได้กลับมาให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่อีกหลายเที่ยวบินยังคงล่าช้ากว่ากำหนดหรือถูกยกเลิก
ทั้งนี้ แม้ตลาดปิดในแดนลบ แต่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย.ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยเอ็กซอนโมบิล พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.7% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นเทโซโร ปรับขึ้น 3.7% และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 2.5%
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 43.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 45.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากนายโมฮัมเหม็ด อัล ซาดา รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของกาตาร์ และประธานกลุ่มโอเปกเปิดเผยว่า โอเปกเตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาด หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
ประธานโอเปกกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า จากการสำรวจราคาน้ำมันในตลาดโลกเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ภาวะผันผวนในตลาดน้ำมันจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว พร้อมกับคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้น้ำมัน มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ด้วย
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ระดับ 1,341.3 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.29 จุด ลดลง 14.24 จุด หรือ -0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.14 จุด ลดลง 7.98 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.89 จุด ลดลง 1.98 จุด, -0.09%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 190 จุดเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากกระทรวงแรงงานเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขดังกล่าวดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
หุ้นวอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก ปรับตัวลง 0.6% หลังจากมีรายงานว่า วอลมาร์ทบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Jet.com ธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลีกผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นเงิน 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า ภายหลังการซื้อกิจการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 แบรนด์ได้วางแผนที่จะใช้แบรนด์แยกจากกันต่อไป โดยเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าของวอลมาร์ทจะยังคงใช้กลยุทธจำหน่ายสินค้าราคาถูก ส่วน Jet.com จะยังคงเจาะกลุ่มลูกค้าชาวมิลเลนเนียล
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 0.6% หลังจากมีรายงานว่า เดลต้า แอร์ไลน์ประกาศระงับเที่ยวบินขาออกทั่วโลก เพราะเหตุไฟฟ้าดับในเมืองแอตแลนตาได้ส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ของสายการบินฯ จนส่งผลให้เที่ยวบินทั่วโลกของเดลต้าต้องล่าช้ากว่ากำหนดหรือถูกยกเลิก
อย่างไรก็ตาม เดลต้า แอร์ไลน์ ได้เริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินบางส่วนได้ตามปกติแล้วในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยเที่ยวบินขาออกบางเที่ยวบินได้กลับมาให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่อีกหลายเที่ยวบินยังคงล่าช้ากว่ากำหนดหรือถูกยกเลิก
ทั้งนี้ แม้ตลาดปิดในแดนลบ แต่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย.ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยเอ็กซอนโมบิล พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.7% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นเทโซโร ปรับขึ้น 3.7% และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 2.5%
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 43.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 45.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากนายโมฮัมเหม็ด อัล ซาดา รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของกาตาร์ และประธานกลุ่มโอเปกเปิดเผยว่า โอเปกเตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาด หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้
ประธานโอเปกกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า จากการสำรวจราคาน้ำมันในตลาดโลกเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ภาวะผันผวนในตลาดน้ำมันจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว พร้อมกับคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้น้ำมัน มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ด้วย
ส่วนสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ระดับ 1,341.3 ดอลลาร์/ออนซ์