นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย แถลงข่าวการสนับสนุนเงินทุนเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ฤดูการผลิตปี 2558/59 ในอัตราตันละ 160 บาท จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งประเทศประมาณ 94 ล้านตัน ว่า เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับค่าอ้อยในระดับใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิต โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนจึงเห็นชอบให้กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งธนาคารอนุมัติให้การสนับสนุนสินเชื่อวงเงินจำนวน 15,047.53 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยประมาณ 153,000 ราย และรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย รวมถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ได้จ่ายเงินกู้งวดแรกเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559 เป็นเงินจำนวน 14,236.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 94.61 ของวงเงินกู้ทั้งหมดให้แก่ชาวไร่อ้อย จำนวน 130,975 ราย และกำหนดจ่ายเงินกู้ งวดที่ 2 ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เป็นเงินจำนวน 603.93 ล้านบาท ให้แก่ชาวไร่อ้อย จำนวน 16,772 ราย
อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ จะเร่งดำเนินการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยส่วนที่เหลือโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย โดยได้ประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดทำเอกสารการขอรับเงินของชาวไร่อ้อย พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่าง ๆ ส่งที่สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายตามแนวทางที่เคยดำเนินการทุกปี ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตั้งคณะกรรมการกำกับตรวจสอบดูแลการจ่ายเงินอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้เงินเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยทุกรายที่ส่งเอกสารครบถ้วนถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ จะเร่งดำเนินการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยส่วนที่เหลือโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย โดยได้ประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดทำเอกสารการขอรับเงินของชาวไร่อ้อย พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่าง ๆ ส่งที่สำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายตามแนวทางที่เคยดำเนินการทุกปี ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตั้งคณะกรรมการกำกับตรวจสอบดูแลการจ่ายเงินอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้เงินเข้าบัญชีชาวไร่อ้อยทุกรายที่ส่งเอกสารครบถ้วนถูกต้อง