นายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ – บูห์แลล บุคคล 2 สัญชาติเกิดที่ตูนิเซีย ถูกระบุในวันศุกร์(15ก.ค.)ว่าเป็นผู้ก่อเหตุขับรถบรรทุกพ่งชนฝูงชนคร่า 84 ชีวิตระหว่างฉลองวันชาติในเมืองนีซเมื่อคืนวันพฤหัสบดี(14ก.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกำลังสืบสวนว่าเขาลงมือเพียงลำพังหรือมีผู้สมรู้ร่วมคิด แต่เผยว่าการโจมตีเป็นลักษณะของพวกนักรบอิสลามิสต์
เหตุโจมตีในเมืองนีซ ที่อยู่ในแคว้น "พรอว็องซาลป์โกตดาซูร์" หรือ ริเวียร่า ทางตอนใต้ของประเทศเมื่อคืนวันพฤหัสบดี(14ก.ค.) ฉุดฝรั่งเศสเข้าสู่ความโศกเศร้าและความหวาดกลัวอีกครั้ง เพียง 8 เดือนหลังจากกลุ่มมือปืนก่อเหตุสังหารหมู่ 130 ศพในกรุงปารีส การโจมตีเหล่านี้และอีกแห่งในบรัสเซลส์เมื่อ 4 เดือนก่อน ก่อคลื่นความช็อคไปทั่วยุโรปตะวันตก ที่ต่างกังวลอยู่ก่อนแล้วเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงจากวิกฤตผู้อพยพ ชายแดนเสรีและแหล่งหลบซ่อนตัวของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง
คนร้ายขับรถบรรทุกตะลุยฝ่าฝูงชนที่มาร่วมฉลองวันชาติบนเส้นทางเลียบชายหาด โพรเมอนาด เดซ็องเกลส์ (Promenade des Anglais) เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จนทำให้ผู้คนหลายร้อยต้องวิ่งหนีตายอลหม่าน ส่วนผู้เคราะห์ร้ายที่หนีไม่ทันก็ต้องกลายเป็นศพเกลื่อนถนน โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมด 84 ศพ ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 10 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีอยู่ 25 คน ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
นายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ – บูห์แลล บุคคล 2 สัญชาติเกิดที่ตูนิเซีย วัย 31 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ เป็นที่รู้จักของตำรวจเนื่องจากเคยก่ออาชญากรรมเล็กน้อยๆ แต่ไม่ได้อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังผู้ต้องสงสัยเป็นนักรบ ทั้งนี้เขาเคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา 1 ครั้ง ฐานเดือดดาลบนท้องถนน และโดนโทษควบคุมความประพฤติ 3 เดือน จากกรณีขว้างแท่นไม้วางของเข้าใส่ผู้ขับขี่คันอื่น
ฟรังซัวส์ โมลินส์ อัยการปารีสเผยว่า "การสืบสวนจะพยายามสรุปว่าเขามีผู้สมรู้ร่วมคิดหรือไม่ นอกจากนี้แล้วจะพยายามคลายปมว่านายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ – บูห์แลล มีความสัมพันธ์กับองค์กรก่อการร้ายอิสลามิสต์หรือเปล่า" อัยการระบุ "แม้ว่าไม่มีใครออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีเมื่อวานนี้ แต่ลักษณะของมันเข้าคู่อย่างสมบูรณ์กับสิ่งที่เรียกว่าการฆาตกรรมจากองค์กรก่อการร้าย" พร้อมเผยว่าพบปืนสั้นและอาวุธปลอมต่างๆนานาในรถบรรทุก และเวลานี้ เมียเก่าของนายบูห์แลล อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจ
เหตุโจมตีในเมืองนีซ ที่อยู่ในแคว้น "พรอว็องซาลป์โกตดาซูร์" หรือ ริเวียร่า ทางตอนใต้ของประเทศเมื่อคืนวันพฤหัสบดี(14ก.ค.) ฉุดฝรั่งเศสเข้าสู่ความโศกเศร้าและความหวาดกลัวอีกครั้ง เพียง 8 เดือนหลังจากกลุ่มมือปืนก่อเหตุสังหารหมู่ 130 ศพในกรุงปารีส การโจมตีเหล่านี้และอีกแห่งในบรัสเซลส์เมื่อ 4 เดือนก่อน ก่อคลื่นความช็อคไปทั่วยุโรปตะวันตก ที่ต่างกังวลอยู่ก่อนแล้วเกี่ยวกับความท้าทายด้านความมั่นคงจากวิกฤตผู้อพยพ ชายแดนเสรีและแหล่งหลบซ่อนตัวของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง
คนร้ายขับรถบรรทุกตะลุยฝ่าฝูงชนที่มาร่วมฉลองวันชาติบนเส้นทางเลียบชายหาด โพรเมอนาด เดซ็องเกลส์ (Promenade des Anglais) เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จนทำให้ผู้คนหลายร้อยต้องวิ่งหนีตายอลหม่าน ส่วนผู้เคราะห์ร้ายที่หนีไม่ทันก็ต้องกลายเป็นศพเกลื่อนถนน โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมด 84 ศพ ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 10 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีอยู่ 25 คน ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
นายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ – บูห์แลล บุคคล 2 สัญชาติเกิดที่ตูนิเซีย วัย 31 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ เป็นที่รู้จักของตำรวจเนื่องจากเคยก่ออาชญากรรมเล็กน้อยๆ แต่ไม่ได้อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังผู้ต้องสงสัยเป็นนักรบ ทั้งนี้เขาเคยถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา 1 ครั้ง ฐานเดือดดาลบนท้องถนน และโดนโทษควบคุมความประพฤติ 3 เดือน จากกรณีขว้างแท่นไม้วางของเข้าใส่ผู้ขับขี่คันอื่น
ฟรังซัวส์ โมลินส์ อัยการปารีสเผยว่า "การสืบสวนจะพยายามสรุปว่าเขามีผู้สมรู้ร่วมคิดหรือไม่ นอกจากนี้แล้วจะพยายามคลายปมว่านายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ – บูห์แลล มีความสัมพันธ์กับองค์กรก่อการร้ายอิสลามิสต์หรือเปล่า" อัยการระบุ "แม้ว่าไม่มีใครออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีเมื่อวานนี้ แต่ลักษณะของมันเข้าคู่อย่างสมบูรณ์กับสิ่งที่เรียกว่าการฆาตกรรมจากองค์กรก่อการร้าย" พร้อมเผยว่าพบปืนสั้นและอาวุธปลอมต่างๆนานาในรถบรรทุก และเวลานี้ เมียเก่าของนายบูห์แลล อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจ
