xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำรุ่งครึ่งปีผลตอบแทนพุ่ง 20% แซงหุ้น-ตราสารหนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการรวบรวมผลตอบแทนจาการลงทุนทั้งในตลาดหุ้น ตราสารหนี้ และทองคำในช่วงครึ่งปีแรก 2559 พบว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนดีที่สุด คือ 20.60% เพิ่มขึ้นบาทละ 3,750 บาท จากวันที่ 2 ม.ค.2559 ราคาทองแท่งขายออกที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำอยู่ที่บาทละ 18,200 บาท มาอยู่ที่บาทละ 21,950 บาทในวันที่ 30 มิ.ย.2559

รองลงมาคือ หุ้นไทย โดยดัชนีหุ้นครึ่งปีแรกพบว่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 181.58 จุด หรือ 14.37% จากดัชนีปิดวันที่ 4 ม.ค.2559 ที่ 1,263.41 จุด มาอยู่ที่ 1,444.99 จุดในวันที่ 30 มิ.ย.2559 ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดพันธบัตรจากต้นปีถึง 30 มิ.ย.2559 เมื่อวัดจากดัชนีพันธบัตรรัฐบาลเท่ากับ 5.92% คิดเป็น 11.84% ต่อปี

นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท แม่ทองสุก เอ็มทีเอส โกลด์ เปิดเผยว่า คาดว่าในไตรมาส 3 นี้ ราคาทองคำในประเทศจะซื้อขายทะลุบาทละ 23,000 บาทได้ ส่วนราคาทองคำโลก จะขึ้นไปถึง 1,400 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจทำได้ยากขึ้น เพราะหลังสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (อียู) มากดดัน ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ แร่เงิน และตราสารหนี้เพิ่ม

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายทองคำ ประเมินว่าจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี-นัก ประชาชนจะนำทองคำมาขายมากกว่าเข้ามาซื้อ ซึ่งเป็นภาพเดียวกับครึ่งปีแรก และคาดว่าจะเห็นยอดส่งออกทองคำในช่วงนี้เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากผู้ค้าต้องนำทองออกไปขายยังสวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในกิจการ

น.ส.อริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้อายุ 10 ปี สิ้นเดือน มิ.ย.2559 อยู่ที่ 2.34% จากต้นปีอยู่ที่ 2.51% หรือลดลง 0.50% แต่ราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นและระยาวทั้งสิ้น 119,000 ล้านบาท ผลจากธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบ และตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยยากขึ้น เงินจึงไหลเข้าตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทย

ขณะที่การออกหุ้นกู้ในครึ่งปีแรก มีมูลค่ารวม 311,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่า 250,000 ล้านบาท จาก 98 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ 22 บริษัท และคาดว่าครึ่งปีหลัง บริษัทเอกชนจะทยอยออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้น โดยทั้งปีจะมมากกว่าปีก่อนที่มีรวม 570,000 ล้านบาท

นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี กล่าวว่า ประเมินดัชนีสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 1,530 จุด

ด้านหุ้นไทยวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่าหุ้นไทยเคลื่อนไหวแบบไซต์เวย์ตลอดทั้งวัน โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ดัชนียังติดลบสาเหตุจากความกังวลผล brexit โดยหุ้นไทยปิดบวก 2.52 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,452.59 จุด คิดเป็น 0.17% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 49,775.17 ล้านบาท

ทั้งนี้นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ -1,231.20 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ -1,065.87 ล้านบาท บัญชี บล.ซื้อสุทธิ 1,306.23 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 990.84 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น