เอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอนยันไม่สนใจคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการในกรุงเฮก เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้ พร้อมกันนี้หนังสือพิมพ์ของทางการจีนยังรายงานว่า ปักกิ่งยินดีเจรจา หากมะนิลาเพิกเฉยต่อคำตัดสินดังกล่าว
“เราไม่รู้และไม่สนใจว่า ศาลอนุญาโตตุลาการจะตัดสินเมื่อไร เพราะไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาอย่างไร เราคิดว่าสิ่งนั้นผิดอย่างแน่นอน” หลิว เสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์และเสริมว่า คำตัดสินดังกล่าวจะไม่มีผลต่อจีน อธิปไตยของจีนเหนือแนวปะการังและหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ แต่กลับจะกลายเป็นคำตัดสินตันอย่างที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ซึ่งจีนจะไม่สู้คดี แต่จะต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ทั้งนี้ ปักกิ่งอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำราว 90% ในทะเลจีนใต้ ทำให้มีข้อพิพาทกับหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือฟิลิปปินส์ที่ยื่นคำร้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ในกรุงเฮก ซึ่งแถลงในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะประกาศคำตัดสินคดีนี้ในวันที่ 12 เดือนนี้
บรรดาเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ตลอดจนนักกฎหมาย นักการทูต และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของโลกตะวันตก พากันประโคมทัศนะมุมมองที่ว่า การเพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของจีนเท่ากับเป็นการปฏิเสธคำสั่งทางกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการท้าทายโดยตรงต่ออเมริกาที่เชื่อว่า จีนกำลังพัฒนาเกาะและแนวปะการังเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารและพลเรือนซึ่งคุกคามต่อเสถียรภาพ รวมทั้งยังทำให้ข้อพิพาทนี้มีเดิมพันสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน การดำเนินการของวอชิงตันหลังคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ก็จะถูกจับตาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นการทดสอบความน่าเชื่อถือของอเมริกาในภูมิภาคนี้ในขณะที่ปักกิ่งแสดงบทบาทก้าวร้าวขึ้น
ในทางกลับกัน จีนมองเรื่องนี้ว่า เป็นการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนและอธิปไตยทางการเมืองของตนจากอเมริกา
หลิวสำทับว่า ประเทศอื่นๆ ที่อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ต่างฮึกเหิมว่า มีอเมริกาให้ท้ายจึงกล้าลุกขึ้นมาท้าทายจีน ดังนั้น จึงน่าสงสัยเจตนาของอเมริกาอย่างยิ่ง
“เราไม่รู้และไม่สนใจว่า ศาลอนุญาโตตุลาการจะตัดสินเมื่อไร เพราะไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาอย่างไร เราคิดว่าสิ่งนั้นผิดอย่างแน่นอน” หลิว เสี่ยวหมิง เอกอัครราชทูตจีนประจำลอนดอน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์และเสริมว่า คำตัดสินดังกล่าวจะไม่มีผลต่อจีน อธิปไตยของจีนเหนือแนวปะการังและหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ แต่กลับจะกลายเป็นคำตัดสินตันอย่างที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ซึ่งจีนจะไม่สู้คดี แต่จะต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ทั้งนี้ ปักกิ่งอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำราว 90% ในทะเลจีนใต้ ทำให้มีข้อพิพาทกับหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือฟิลิปปินส์ที่ยื่นคำร้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ในกรุงเฮก ซึ่งแถลงในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะประกาศคำตัดสินคดีนี้ในวันที่ 12 เดือนนี้
บรรดาเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ตลอดจนนักกฎหมาย นักการทูต และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของโลกตะวันตก พากันประโคมทัศนะมุมมองที่ว่า การเพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของจีนเท่ากับเป็นการปฏิเสธคำสั่งทางกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการท้าทายโดยตรงต่ออเมริกาที่เชื่อว่า จีนกำลังพัฒนาเกาะและแนวปะการังเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารและพลเรือนซึ่งคุกคามต่อเสถียรภาพ รวมทั้งยังทำให้ข้อพิพาทนี้มีเดิมพันสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน การดำเนินการของวอชิงตันหลังคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการ ก็จะถูกจับตาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นการทดสอบความน่าเชื่อถือของอเมริกาในภูมิภาคนี้ในขณะที่ปักกิ่งแสดงบทบาทก้าวร้าวขึ้น
ในทางกลับกัน จีนมองเรื่องนี้ว่า เป็นการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนและอธิปไตยทางการเมืองของตนจากอเมริกา
หลิวสำทับว่า ประเทศอื่นๆ ที่อ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ต่างฮึกเหิมว่า มีอเมริกาให้ท้ายจึงกล้าลุกขึ้นมาท้าทายจีน ดังนั้น จึงน่าสงสัยเจตนาของอเมริกาอย่างยิ่ง