นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์จะเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาการตั้งกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่ขาดเงินทุนและสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ และจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือทางการเงินกับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี เช่น ให้เงินซื้อเครื่องจักร หรือคอมพิวเตอร์ หรือจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันเงินกู้ให้ ผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถนำเงินไปช่วยเหลือมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ให้เงินเพื่อการพัฒนาชุมชน กระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาให้สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เช่นกัน ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดภาระของรัฐบาลในการพัฒนาเอสเอ็มอีและเศรษฐกิจประเทศเข็มแข็งมากขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ถึง 3.5 แสนล้านบาท เช่น การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การช่วยช่วยค้ำประกันเงินกู้ เป็นต้น ซึ่งมาตราการเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ให้เงินเพื่อการพัฒนาชุมชน กระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาให้สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เช่นกัน ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดภาระของรัฐบาลในการพัฒนาเอสเอ็มอีและเศรษฐกิจประเทศเข็มแข็งมากขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ถึง 3.5 แสนล้านบาท เช่น การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การช่วยช่วยค้ำประกันเงินกู้ เป็นต้น ซึ่งมาตราการเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้