xs
xsm
sm
md
lg

"ชัยยะ"สั่ง ปปง.ซุ่มสอบธุรกรรมการเงิน"ธัมมชโย-วัดธรรมกาย"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถึงความคืบหน้าการดำเนินการทางการเงินกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ที่ถูกออกหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ซึ่งเป็นเช็คเงินบริจาคจากนายศุภชัยว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รักษาการเลขาธิการ ปปง. ได้เรียกสำนวนคดีพระธัมมชโยที่ ปปง.มีการหารือร่วมกับดีเอสไอมาพิจารณา รวมทั้งสั่งเป็นการภายในให้เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะธุรกรรมต่างๆ ที่อยู่ในสำนวนต่อจาก พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ อดีตเลขาธิการ ปปง.คนเก่า คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ว่า ปปง.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

“บอร์ด ปปง.ก็ทราบเบื้องต้นว่ามีการสั่งการให้เข้าไปดูสำนวนนี้แล้ว จากการประสานกับดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้หากเลขาธิการ ปปง.เห็นว่ามีพยานหลักฐานอะไร จะดำเนินการอย่างไร ก็สามารถใช้อำนาจเลขาธิการ ปปง.ตามกฎหมายที่มีอยู่ดำเนินการได้เลย ไม่ต้องส่งเรื่องมาให้ที่ประชุมใหญ่ ปปง.เห็นชอบ เพราะโครงสร้าง ปปง.ไม่เหมือนกับ ป.ป.ช. ที่พอเลขาธิการสำนักงานรับสำนวนหรือสรุปสำนวนอะไรมาแล้วต้องให้บอร์ด ป.ป.ช.เห็นชอบมีมติ แต่ของ ปปง.ตัวเลขาธิการมีอำนาจหน้าที่มาก เขาทำไปได้เลย เพียงแต่ก็จะนำมารายงานให้ที่ประชุมใหญ่รับทราบผลการดำเนินการเท่านั้น“ แหล่งข่าวจากบอร์ดปปง.ระบุ

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันว่าทาง ปปง.จะพิจารณาเรื่องกรณีพระธัมมชโยว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังรอฟังผลการแถลงข่าวของอัยการในวันที่ 13 ก.ค. ในคดีที่ดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายศุภชัย, พระธัมมชโย, น.ส.ศรันยา มานหมัด, นางทองพิน กันล้อม และนางศศิธร โชคประสิทธิ์ เป็นผู้ต้องหาที่ 1- 5 ตามลำดับคดีร่วมกันฟอกเงินก่อน

วันเดียวกัน หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” หัวข้อ และแล้วมหาเถรฯ ก็ลอยตัว เนื้อหาระบุว่า วันที่ 30 มิ.ย. เวลา 14.00 น. มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ได้นำเรื่องของธัมมชโยเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรฯ ให้พิจารณา ที่ประชุมมหาเถรฯ มีความเห็นว่ากรณีคดีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มีพระธัมมชโยตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน รับของโจรนั้น ทางมหาเถรสมาคมมีความเห็นว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่เรื่องของวัดนะจ๊ะ ดังนั้นจึงให้ปฏิบัติตาม มติ มส.ที่ 65/2544 ให้คดีความต่างๆ ของภิกษุสงฆ์ อยู่ภายในอำนาจหน้าที่ของเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้น นับตั้งแต่เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาส และให้ทุกคดียุติแค่เจ้าคณะหน

“เพราะเช่นนี้แหละ พุทธะอิสระจึงไปยื่นหนังสือให้เจ้าคณะภาค เจ้าคณะหนปลดเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีออกจากตำแหน่ง เหตุเพราะไม่ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง ถือว่าชอบด้วยพระธรรมวินัย ชอบด้วยกฎหมายและมติมหาเถรสมาคมปี 44 แล้ว (ครั้งที่ 4/2544 มติที่ 65/2544 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 เรื่อง การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่) แต่ที่ไม่ยื่นเรื่องให้ปลดเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต่อเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ก็เพราะว่าสมณศักดิ์ของเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ยังต่ำกว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จึงคงไม่สามารถทำการลงโทษว่ากล่าวตักเตือนแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มียศสูงกว่าตนได้” หลวงปู่พุทธะอิสระระบุ

ท้ายเฟซบุ๊กหลวงปู่พุทธะอิสระระบุว่า สำหรับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มีสมณศักดิ์ที่พระเทพรัตนสุธี แต่ละเว้นไม่ทำหน้าที่ผู้ปกครองที่ดี จึงสมควรจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง เพราะละเมิดมติมหาเถรสมาคมปี 44 และกฎหมายปกครองคณะสงฆ์อย่างชัดเจน ส่วนเรื่องที่พุทธะอิสระไปยื่นเรื่องให้เจ้าคณะภาค 1 วัดชนะสงคราม และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการาม ให้สอบอธิกรณ์ ข้อกล่าวหาธัมมชโยเป็นปาราชิก 2 สิกขาบท คือ ยักยอกทรัพย์เกิน 5 มาสก ในกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ต้องอาบัติปาราชิกสิกขาบทที่ 3 และอวดอุตริมนุสธรรม กรณีสตีฟ จ๊อบส์ ในปาราชิกสิกขาบทที่ 4 รวมทั้งมีพฤติกรรมจาบจ้วงย่ำยีพระธรรมวินัย บิดเบือนคำสอน บัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้ามิได้บัญญัติ กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ความผิดเหล่านี้ พุทธะอิสระได้นำหลักฐานและสำนวนคำร้องทุกข์กล่าวโทษไปยื่นให้เจ้าคณะภาค 1 เจ้าคณะใหญ่หนกลางไว้พิจารณาสอบสวนแล้ว

"มาดูกันว่าเจ้าคณะปกครองทั้งหลายจะทำตามมติมหาเถรสมาคมเมื่อปี 44 หรือไม่ พวกเราพุทธบริษัทผู้พระธรรมวินัยและความถูกต้องจะคอยดูว่า เจ้าคณะปกครองจะเลือกคนหรือเลือกพระธรรมวินัย”หลวงปู่พุทธะอิสระระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น