นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า จากที่รถตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเคลื่อนที่ ออกตรวจสอบคุณภาพน้ำมันทั่วประเทศ พบว่าล่าสุดปริมาณน้ำมันเถื่อนหรือ ปลอมปนเพิ่มขึ้นในปั๊มหลอดและปั๊มน้ำมันขนาดเล็ก โดยในภาคเหนือและอีสาน เป็นการปลอมปน นำอี 20 ไปผสมกับแก๊สโซฮอล์ แล้วขายเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ส่วนภาคใต้ลักลอบนำดีเซลจากเพื่อนบ้านมาจำหน่ายแทนไบโอดีเซลบี 7 ของไทย ทำให้ได้ส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้น โดยกรมฯ ได้วิเคราะห์เพื่อจะได้รับทราบปัญหาของแต่ละพื้นที่ เพื่อจะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้แก้ปัญหากวดขันติดตามได้ตรงจุด เช่น กรณีที่ จ.น่าน พบดีเซลปลอมปน ปัญหาคงไม่ได้เกิดจากการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน แต่อาจจะเกิดจากผู้ส่งออกอาจจะไม่มีการส่งออกจริง และลักลอบถ่ายเทไปขายตามปั๊มขนาดเล็กก็ได้
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า น้ำมันเถื่อนที่เพิ่มขึ้นสาเหตุจูงใจน่าจะมาจากการใช้น้ำมันของประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันลดลงต่ำ ทำให้ผู้ค้าได้ประโยชน์จากต้นทุนต่ำและยอดขาย โดยยอดใช้น้ำมันเดือนเมษายน กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นเป็น 29 ล้านลิตร/วัน และกลุ่มดีเซลเพิ่มเป็น 63.64 ล้านลิตร/วัน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเจ้าของปั๊มหลอดในภาคอีสาน-เหนือ ก็น่าสงสาร เพราะหลายคนก็ซื้อมาจากผู้ค้าส่งโดยไม่รู้ว่าน้ำมันที่ขายเป็นน้ำมันปลอมปน
นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า น้ำมันเถื่อนที่เพิ่มขึ้นสาเหตุจูงใจน่าจะมาจากการใช้น้ำมันของประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันลดลงต่ำ ทำให้ผู้ค้าได้ประโยชน์จากต้นทุนต่ำและยอดขาย โดยยอดใช้น้ำมันเดือนเมษายน กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นเป็น 29 ล้านลิตร/วัน และกลุ่มดีเซลเพิ่มเป็น 63.64 ล้านลิตร/วัน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเจ้าของปั๊มหลอดในภาคอีสาน-เหนือ ก็น่าสงสาร เพราะหลายคนก็ซื้อมาจากผู้ค้าส่งโดยไม่รู้ว่าน้ำมันที่ขายเป็นน้ำมันปลอมปน