จากกรณี บริษัท ซีทีเอช เคเบิลทีวี จำกัด ผู้ให้บริการเพย์ทีวี ได้แจ้งผู้บริโภคว่าจะยุติการให้บริการช่องสัญญาณจานดาวเทียมไทยคมระบบเคยูแบนด์ (KU – Band) ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นั้น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (กสทช.) เชิญผู้แทนบริษัทซีทีเอช มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
นายธนวัฒน์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ซีทีเอช กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องยุติการให้บริการ เนื่องจากขณะนี้เหลือลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มเคยูแบนด์ ประมาณ 9,000 ราย ลดลงจากช่วงเริ่มต้นที่มีกว่า 300,000 ราย ทำให้บริษัทไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายราว 10 ล้านบาทต่อเดือนได้
และตั้งแต่เดือน พ.ค. บริษัทได้ยกเลิกการเรียกเก็บค่าบริการแบบแพ็กเก็จล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ลูกค้าสามารถรับชมได้ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคม ดังนั้นจะมีกลุ่มลูกค้าที่ประสบปัญหาจากการยุติบริการเฉพาะกลุ่มที่สมัครแพ็กเกจเป็นรายปี
แต่ยืนยันว่า บริษัทพร้อมจะดูแลลูกค้าที่สมัคแพ็กเกจใช้บริการของซีทีเอช ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าแต่ละรายมีอยู่ โดยสิ่งที่บริษัทจะรับผิดชอบ คือการคืนเงินให้ตามสัดส่วนที่พิจารณา ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อได้หน้าเว็บไซต์ของซีทีเอช และบริษัท หรือศูนย์บริการลูกค้า และจากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าจะชดเชยให้ได้ครบทุกราย ภายใน 1 เดือน ในกรณีที่ส่งเอกสารมาให้บริษัทพิจารณา
ขณะที่นางสาวตริตราภรณ์ พิพัฒน์พงศ์สกุล ฝ่ายกฎหมาย บริษัท ซีทีเอช เปิดเผยว่า สำหรับการชี้แจง กสทช.เป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับการยุติให้บริการนั้น อยู่ระหว่างการเตรียมส่งหนังสือแจ้งในต้นเดือนกรกฏาคม เนื่องจากยังมีระยะเวลา 30 วัน ตามกฎหมาย เพื่อชี้แจงก่อนถึงวันยุติบริการ โดยขณะนี้ได้แจ้งให้ลูกค้าให้ทราบล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์แล้ว 45 วัน
ด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวภายหลังรับฟังการชี้แจงของบริษัทว่า สิ่งที่พบคือ บริษัทซีทีเอชฯ ยังไม่ได้ดำเนินการขออนุมัติจาก กสท. ว่าจะยกเลิกการให้บริการในช่องสัญญาณจานดาวเทียมไทยคม ระบบเคยู แบนด์ ทั้งยังไม่ได้ส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาให้เช่นกัน แต่ได้แจ้งผู้บริโภคทางช่องทางต่างๆ แล้ว ทั้งนี้จะมีผู้ใช้บริการที่เติมเงินไปแล้ว ได้รับผลกระทบที่ต้องได้รับเงินชดเชยค่าแพ็กเกจที่เหลือจำนวน 9,000 ราย
"ได้ขอให้ผู้แทนไปหารือกับผู้บริหารว่าสามารถจะยืดเวลาการยุติการออกอากาศไปอีก 1-3 เดือน ได้หรือไม่ เพราะยังไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายใดๆ กสท.ยังไม่เห็นแผนการเยียวยาผู้ใช้บริการ ถ้ายังเดินหน้าเหมือนเดิม ยุติภายใน 1 สิงหาคมนี้ ไม่มีทางที่จะดำเนินการได้ทัน อยากให้ยุติการดำเนินการด้วยดีมากกว่าที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือผู้บริโภคไม่ประทับใจกับการให้บริการ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจึงมีมติให้สำนักงาน กสทช. ที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์ข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้บริษัทฯ ทำตามกติกาให้ถูกต้อง ภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้" สุภิญญากล่าว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (กสทช.) เชิญผู้แทนบริษัทซีทีเอช มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
นายธนวัฒน์ นิธิโชติวรภัทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ซีทีเอช กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องยุติการให้บริการ เนื่องจากขณะนี้เหลือลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มเคยูแบนด์ ประมาณ 9,000 ราย ลดลงจากช่วงเริ่มต้นที่มีกว่า 300,000 ราย ทำให้บริษัทไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายราว 10 ล้านบาทต่อเดือนได้
และตั้งแต่เดือน พ.ค. บริษัทได้ยกเลิกการเรียกเก็บค่าบริการแบบแพ็กเก็จล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ลูกค้าสามารถรับชมได้ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคม ดังนั้นจะมีกลุ่มลูกค้าที่ประสบปัญหาจากการยุติบริการเฉพาะกลุ่มที่สมัครแพ็กเกจเป็นรายปี
แต่ยืนยันว่า บริษัทพร้อมจะดูแลลูกค้าที่สมัคแพ็กเกจใช้บริการของซีทีเอช ตามแพ็กเกจที่ลูกค้าแต่ละรายมีอยู่ โดยสิ่งที่บริษัทจะรับผิดชอบ คือการคืนเงินให้ตามสัดส่วนที่พิจารณา ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อได้หน้าเว็บไซต์ของซีทีเอช และบริษัท หรือศูนย์บริการลูกค้า และจากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าจะชดเชยให้ได้ครบทุกราย ภายใน 1 เดือน ในกรณีที่ส่งเอกสารมาให้บริษัทพิจารณา
ขณะที่นางสาวตริตราภรณ์ พิพัฒน์พงศ์สกุล ฝ่ายกฎหมาย บริษัท ซีทีเอช เปิดเผยว่า สำหรับการชี้แจง กสทช.เป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับการยุติให้บริการนั้น อยู่ระหว่างการเตรียมส่งหนังสือแจ้งในต้นเดือนกรกฏาคม เนื่องจากยังมีระยะเวลา 30 วัน ตามกฎหมาย เพื่อชี้แจงก่อนถึงวันยุติบริการ โดยขณะนี้ได้แจ้งให้ลูกค้าให้ทราบล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์แล้ว 45 วัน
ด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวภายหลังรับฟังการชี้แจงของบริษัทว่า สิ่งที่พบคือ บริษัทซีทีเอชฯ ยังไม่ได้ดำเนินการขออนุมัติจาก กสท. ว่าจะยกเลิกการให้บริการในช่องสัญญาณจานดาวเทียมไทยคม ระบบเคยู แบนด์ ทั้งยังไม่ได้ส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาให้เช่นกัน แต่ได้แจ้งผู้บริโภคทางช่องทางต่างๆ แล้ว ทั้งนี้จะมีผู้ใช้บริการที่เติมเงินไปแล้ว ได้รับผลกระทบที่ต้องได้รับเงินชดเชยค่าแพ็กเกจที่เหลือจำนวน 9,000 ราย
"ได้ขอให้ผู้แทนไปหารือกับผู้บริหารว่าสามารถจะยืดเวลาการยุติการออกอากาศไปอีก 1-3 เดือน ได้หรือไม่ เพราะยังไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายใดๆ กสท.ยังไม่เห็นแผนการเยียวยาผู้ใช้บริการ ถ้ายังเดินหน้าเหมือนเดิม ยุติภายใน 1 สิงหาคมนี้ ไม่มีทางที่จะดำเนินการได้ทัน อยากให้ยุติการดำเนินการด้วยดีมากกว่าที่จะต้องทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือผู้บริโภคไม่ประทับใจกับการให้บริการ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจึงมีมติให้สำนักงาน กสทช. ที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์ข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้บริษัทฯ ทำตามกติกาให้ถูกต้อง ภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้" สุภิญญากล่าว