นางสาวฐานิต ปรีชาเลิศ และนางสาวสุภรัตน์ ปราบคนชั่ว ถูกตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. จับกุมตามหมายจับใน 3 ข้อหา คือ สมคบกัน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำผิดฐานค้ามนุษย์โดยบังคับบุคคลที่มีอายุกว่า 18 ปีขึ้นไป เพื่อค้าประเวณี, ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปหรือกระทำโดยองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบตามกฏหมาย และเป็นร่วมกันธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารและค้าประเวณีซึ่งหญิงอายุกว่า 18 ปี โดยหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หลังเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พามารดาของหญิงผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์ว่าถูกนางสาวสุภรัตน์ หลอกลวงส่งนางสาวฐานิต ไปที่ประเทศบาห์เรน เพื่อบังคับให้ค้าประเวณีตามโรงแรมหลายแห่งที่กรุงมานามา ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศบาห์เรน ตำรวจกรุงมานามา เข้าช่วยเหลือหญิงไทย 5 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นางฐานิต ปฎิเสธ อ้างเป็นเพียงแม่ค้าขายของที่ประเทศบาร์เรน โดยไม่รู้จักกับผู้เสียหายและไม่ได้บังคับใครให้ค้าประเวณี และไม่รู้จักกับนางสาวสุภรัตน์ด้วย
ด้านตำรวจ ปคม. ระบุว่า พบหลักฐานทั้ง 2 คน เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันและมีผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน ขบวนการนี้ใช้วิธีการชักชวนผู้เสียหาย ส่วนใหญ่ทำงานนวด ร้านอาหาร อยากมีรายได้มากขึ้น ให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยใช้ภาพถ่ายชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีๆ ของคนที่ไปทำงานมาให้ดู ไปทำงานแล้วค่อยจ่ายค่าดำเนินการ แต่เมื่อไปถึงกลับบังคับให้ค้าประเวณี พร้อมแจ้งยอดหนี้สิ้นค่าดำเนินการให้ผู้เสียหายต้องชดใช้จำนวนมาก เตรียมใช้มาตรการยึดทรัพย์กับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ทุกคน และจากการสืบสวนยังพบว่ามีอีกหลายกลุ่มที่มีพฤติกรรมหลอกลวงหญิงไทยไปทำงานต่างประเทศ จึงขอเตือนหญิงสาว ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์.
นางฐานิต ปฎิเสธ อ้างเป็นเพียงแม่ค้าขายของที่ประเทศบาร์เรน โดยไม่รู้จักกับผู้เสียหายและไม่ได้บังคับใครให้ค้าประเวณี และไม่รู้จักกับนางสาวสุภรัตน์ด้วย
ด้านตำรวจ ปคม. ระบุว่า พบหลักฐานทั้ง 2 คน เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันและมีผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน ขบวนการนี้ใช้วิธีการชักชวนผู้เสียหาย ส่วนใหญ่ทำงานนวด ร้านอาหาร อยากมีรายได้มากขึ้น ให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยใช้ภาพถ่ายชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีๆ ของคนที่ไปทำงานมาให้ดู ไปทำงานแล้วค่อยจ่ายค่าดำเนินการ แต่เมื่อไปถึงกลับบังคับให้ค้าประเวณี พร้อมแจ้งยอดหนี้สิ้นค่าดำเนินการให้ผู้เสียหายต้องชดใช้จำนวนมาก เตรียมใช้มาตรการยึดทรัพย์กับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ทุกคน และจากการสืบสวนยังพบว่ามีอีกหลายกลุ่มที่มีพฤติกรรมหลอกลวงหญิงไทยไปทำงานต่างประเทศ จึงขอเตือนหญิงสาว ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์.
