เอเอฟพี - รัฐบาลมาเลเซียของนายกรัฐมนตรีนาจีฟ ราซัค ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 15 คนให้ออกจากงาน รวมไปถึงมีการสั่งพักงานอีกหลายสิบคน และโยกย้ายอีกถึง 63 รายหลังพบว่าคนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ด้วยการแอบเปลี่ยนแปลงข้อมูลระบบบันทึกการเข้าออกประเทศผ่านทางสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ตั้งแต่ปี 2010 แต่เบื้องต้นไม่พบการเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (1 มิ.ย.) ว่า การฉ้อฉลเกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวกลาลัมเปอร์ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2010 โดยในแถลงการณ์ของผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย ซาคิบ คัสมี (Sakib Kusmi) ในวันอังคาร (31 พ.ค.) ระบุว่า นอกจากที่มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 15 คนถูกสั่งให้ออกจากงานแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่อีกไม่ต่ำกว่า 24 คนถูกสั่งพักงาน และอีก 63 คนถูกโยกย้าย ซึ่งจะมีการตั้งข้อหาคนเหล่านี้ในภายหลัง
“เครือข่ายอาชญากรรมอาชญากรรมสามารถเจาะเข้าระบบรักษาความปลอดภัยมาเลเซียด้วยความช่วยเหลือของคนในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียเอง” ซาคิบแถลง
ในการให้ข้อมูลของหัวหน้าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียชี้ว่า มีการกระทำที่ช่วยเหลือกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ ซึ่งมีคนต่างชาติเกี่ยวข้องด้วย ในการเปลี่ยนแปลงระบบบันทึกการเดินทางเข้าออกประเทศ
แต่อย่างไรก็ต่าม ในการแถลงของซาคิบไม่ได้ให้ข้อมูลไปถึงกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการถูกเจาะเข้าระบบรักษาความปลอดภัยของประเทศ
ด้านผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซาฮิด ฮามิดี (Zahid Hamidi) ได้ออกแถลงการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “มีคนที่เกี่ยวข้องถึง 100 คน ซึ่งรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย สมาชิกกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมที่ถูกทางการมาเลเซียสอบสวน
เอเอฟพีรายงานว่า การลงโทษได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และซาคิบยังยืนยันว่า ทางหน่วยงานได้สั่งการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจำนวนมากที่ประจำอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัยเบื้องต้น
แต่อย่างไรก็ตาม ในการแถลงครั้งนี้ เอเอฟพีระบุว่าทางมาเลเซียไม่ได้ระบุถึงความเกี่ยวข้องของกลุ่มก่อการร้าย และทางซาคิบยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียร่วมด้วย
