นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณากำหนดหลักสูตรวิชาชีพพนักงานสืบสวนสอบสวนและประมวลจริยธรรม ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานศาลยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สถาบันส่งเสริมงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาทนายความ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยามเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายบุญส่ง เปิดเผยว่า หลังการประชุมวันนี้ คณะกรรมการฯ จะนำหลักสูตรดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ให้ความเห็นชอบ เพื่อพิจารณาอนุมัติการอบรมหลักสูตรวิชาชีพพนักงานสืบสวนสอบสวนต่อไป เพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานสืบสวนของ กกต.มีความเป็นมืออาชีพ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเชื่อมั่นในการรองรับภารกิจการควบคุมการเลือกตั้ง และสามารถป้องปรามการทุจริตเลือกตั้งได้
กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวจะมี 3 ระดับ คือระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง มีเนื้อหาในเรื่องการสืบสวนเส้นทางการเงิน การสะกดรอย การสอบปากคำ โดยใช้เทคนิคทางจิตวิทยา เป็นต้น คาดว่าในระหว่างนี้ก่อนที่จะมีเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น กกต.จะสามารถจัดอบรมหลักสูตรฯ ดังกล่าวได้อย่างน้อย 2 รุ่น และการเลือกตั้งในอนาคต กกต.จะขอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้พนักงานสืบสวนของ กกต. มีอำนาจเหมือนพนักงานสอบสวนของตำรวจ โดยมีอำนาจจับกุมซึ่งหน้า ตรวจค้น ซึ่งก็เชื่อว่าหากมีอำนาจดังกล่าวก็จะสามารถดำเนินการกับนักการเมืองที่ทุจริตการเลือกตั้งได้
นายบุญส่ง เปิดเผยว่า หลังการประชุมวันนี้ คณะกรรมการฯ จะนำหลักสูตรดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ให้ความเห็นชอบ เพื่อพิจารณาอนุมัติการอบรมหลักสูตรวิชาชีพพนักงานสืบสวนสอบสวนต่อไป เพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานสืบสวนของ กกต.มีความเป็นมืออาชีพ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเชื่อมั่นในการรองรับภารกิจการควบคุมการเลือกตั้ง และสามารถป้องปรามการทุจริตเลือกตั้งได้
กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวจะมี 3 ระดับ คือระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง มีเนื้อหาในเรื่องการสืบสวนเส้นทางการเงิน การสะกดรอย การสอบปากคำ โดยใช้เทคนิคทางจิตวิทยา เป็นต้น คาดว่าในระหว่างนี้ก่อนที่จะมีเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น กกต.จะสามารถจัดอบรมหลักสูตรฯ ดังกล่าวได้อย่างน้อย 2 รุ่น และการเลือกตั้งในอนาคต กกต.จะขอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้พนักงานสืบสวนของ กกต. มีอำนาจเหมือนพนักงานสอบสวนของตำรวจ โดยมีอำนาจจับกุมซึ่งหน้า ตรวจค้น ซึ่งก็เชื่อว่าหากมีอำนาจดังกล่าวก็จะสามารถดำเนินการกับนักการเมืองที่ทุจริตการเลือกตั้งได้