ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (20 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 65.54 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 17,500.94 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 12.28 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 2,052.32 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 57.03 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 4,769.56 จุด
นักลงทุนคลายความวิตกชั่วคราว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สูงขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังรายงานของเฟดส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งรวมถึง ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ที่เปิดเผยไปก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่า สหรัฐยังคงมีเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าในปีที่ผ่านมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลให้เชื่อได้ว่า เฟดจะยังคงไม่มีความเชื่อมั่นมากพอที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ (20 พ.ค.) ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดิบที่สูงเกินไป
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 47.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 48.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 541.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ (20 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทรัพย์สินที่มีความปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,252.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 1.56% ในสัปดาห์นี้ สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนวันศุกร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาโลหะมีค่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทรัพย์สินที่มีความปลอดภัย และในทำนองกลับกัน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากกว่าคาดการณ์ โดยยอดขายเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนที่ 5.45 ล้านยูนิต บ่งชี้ว่าความต้องการบ้านยังคงแข็งแกร่งและตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังฟื้นตัวขึ้น
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.4 ล้านยูนิต จากระดับของเดือนมี.ค.ที่ 5.36 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับทบทวนขึ้นจาก 5.33 ล้านยูนิตในรายงานก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 65.54 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 17,500.94 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 12.28 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 2,052.32 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 57.03 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 4,769.56 จุด
นักลงทุนคลายความวิตกชั่วคราว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สูงขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังรายงานของเฟดส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอซึ่งรวมถึง ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ที่เปิดเผยไปก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่า สหรัฐยังคงมีเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าในปีที่ผ่านมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลให้เชื่อได้ว่า เฟดจะยังคงไม่มีความเชื่อมั่นมากพอที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ (20 พ.ค.) ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดิบที่สูงเกินไป
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 47.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 48.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 541.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ (20 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทรัพย์สินที่มีความปลอดภัย หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,252.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 1.56% ในสัปดาห์นี้ สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนวันศุกร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาโลหะมีค่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทรัพย์สินที่มีความปลอดภัย และในทำนองกลับกัน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมากกว่าคาดการณ์ โดยยอดขายเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนที่ 5.45 ล้านยูนิต บ่งชี้ว่าความต้องการบ้านยังคงแข็งแกร่งและตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังฟื้นตัวขึ้น
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.4 ล้านยูนิต จากระดับของเดือนมี.ค.ที่ 5.36 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับทบทวนขึ้นจาก 5.33 ล้านยูนิตในรายงานก่อนหน้านี้