พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์รำลึกเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม โดยมีใจความสำคัญว่า เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนประวัติศาสตร์ที่คนไทยต่อสู้กับผู้มีอำนาจ เพราะยินยอมให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไป 2 ทศวรรษ ประเด็นนี้กำลังหมุนเวียนกลับมาอีกตามร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559
นอกจากนี้ ในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ยังมีเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. จนมีผู้สูญเสียชีวิต 99 ศพ แต่การสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด และผู้สมควรรับผิดชอบในความสูญเสียที่เกิดขึ้นของประชาชนกลับเชื่องช้า ในขณะที่กลุ่มคนผู้สั่งการสลายการชุมนุม กลับหลุดรอดพ้นจากคดีความอย่างน่ากังขา เดือนพฤษภาคมจึงสมควรเป็นเดือนแห่งการรำลึก และแสวงหาความยุติธรรมให้แก่ผู้สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งรอคอยความหวัง จากกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยของเรา โดยในวันที่22 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ จะครบรอบ 2 ปี ของการรัฐประหาร จึงมีคำถามว่าประเทศและประชาชน ได้อะไรจากการถดถอยของระบอบประชาธิปไตยครั้งนี้บ้าง และอยากบอกว่า หากความยุติธรรมไม่มี ยากที่จะทำให้ความสามัคคีเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ในเดือนพฤษภาคม ปี 2553 ยังมีเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. จนมีผู้สูญเสียชีวิต 99 ศพ แต่การสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด และผู้สมควรรับผิดชอบในความสูญเสียที่เกิดขึ้นของประชาชนกลับเชื่องช้า ในขณะที่กลุ่มคนผู้สั่งการสลายการชุมนุม กลับหลุดรอดพ้นจากคดีความอย่างน่ากังขา เดือนพฤษภาคมจึงสมควรเป็นเดือนแห่งการรำลึก และแสวงหาความยุติธรรมให้แก่ผู้สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งรอคอยความหวัง จากกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยของเรา โดยในวันที่22 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ จะครบรอบ 2 ปี ของการรัฐประหาร จึงมีคำถามว่าประเทศและประชาชน ได้อะไรจากการถดถอยของระบอบประชาธิปไตยครั้งนี้บ้าง และอยากบอกว่า หากความยุติธรรมไม่มี ยากที่จะทำให้ความสามัคคีเกิดขึ้นได้