เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีลังกากำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกกว่า 150 คน จากเหตุดินโคลนถล่มทางภาคกลางของประเทศ อันเป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกันหลายวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 37 คน และอีกเกือบ 350,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ซึ่งฝนที่ตกหนักยังทำให้ถนนสายต่างๆ ในกรุงโคลัมโบจมอยู่ใต้น้ำ เช่นเดียวกับรางรถไฟส่งผลให้รถไฟต้องหยุดให้บริการ
ด้านเจ้าหน้าที่กาชาด เปิดเผยว่า อาจมีชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลนที่ถล่มใส่หมู่บ้าน 3 แห่ง ในเขตคีกัลลีทางภาคกลางของศรีลังกา ตั้งแต่วันอังคาร ที่ผ่านมา และมีการกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้วอย่างน้อย 17 ศพ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า ได้ช่วยเหลือชาวบ้านราว 150 คนขึ้นมา แต่ยังมีบ้านเรือนอีกกว่า 60 หลังถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลน ทำให้เจ้าหน้าที่เกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกมาก และการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะไม่สามารถนำอุปกรณ์หนักเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยรุนแรงที่สุดได้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา กำลังลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัย และรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือในการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ โดยข้อมูลจากทางการศรีลังการะบุว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกัน 3 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 37 คน และอีกเกือบ 350,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ฝนที่ตกหนักยังทำให้ถนนสายต่างๆในกรุงโคลัมโบจมอยู่ใต้น้ำ เช่นเดียวกับรางรถไฟส่งผลให้รถไฟต้องหยุดให้บริการ
ด้านเจ้าหน้าที่กาชาด เปิดเผยว่า อาจมีชาวบ้านกว่า 200 ครอบครัว ถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลนที่ถล่มใส่หมู่บ้าน 3 แห่ง ในเขตคีกัลลีทางภาคกลางของศรีลังกา ตั้งแต่วันอังคาร ที่ผ่านมา และมีการกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้แล้วอย่างน้อย 17 ศพ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า ได้ช่วยเหลือชาวบ้านราว 150 คนขึ้นมา แต่ยังมีบ้านเรือนอีกกว่า 60 หลังถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลน ทำให้เจ้าหน้าที่เกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกมาก และการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะไม่สามารถนำอุปกรณ์หนักเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยรุนแรงที่สุดได้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา กำลังลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัย และรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือในการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ โดยข้อมูลจากทางการศรีลังการะบุว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกัน 3 วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 37 คน และอีกเกือบ 350,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ฝนที่ตกหนักยังทำให้ถนนสายต่างๆในกรุงโคลัมโบจมอยู่ใต้น้ำ เช่นเดียวกับรางรถไฟส่งผลให้รถไฟต้องหยุดให้บริการ
