ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศยืนยันในวันอังคาร (10 พ.ค.) จะกวาดล้างอาชญากรรมภายใน 6 เดือนตามที่สัญญา รวมทั้งยังมีแผนยกเครื่องรัฐบาลเพื่อกระจายอำนาจให้แก่จังหวัดต่างๆ ตลอดจนเตรียมหารือกับจีนโดยตรงเพื่อแก้ไขข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ทั้งนี้หลังจากนายกเทศมนตรี “ขาโหด” ที่บริหารเมืองดาเวา นครใหญ่ทางภาคใต้ของแดนตากาล็อก แบบถึงลูกถึงคนผู้นี้ กวาดชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งวันจันทร์ (9) กระทั่งพวกคู่แข่งคนสำคัญพากันยกธงขาว ถึงแม้ยังไม่ได้มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
คู่แข่งสำคัญของดูเตอร์เต ทั้งอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย มานูเอล “มาร์” โรซาส ซึ่งประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ให้การสนับสนุน และวุฒิสมาชิก เกรซ โป ต่างยอมรับความพ่ายแพ้และแสดงความยินดีต่อนักการเมืองที่ถือเป็นคนวงนอกชนชั้นนำของฟิลิปปินสืผู้นี้ หลังจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า นายกเทศมนตรีวัย 71 ปีที่บริหารดาเวาแบบถึงลูกถึงคน ได้คะแนนเสียงนำผู้สมัครที่มาเป็นอันดับสองถึงกว่า 6 ล้านเสียง จากคะแนนที่นับแล้ว 90% ของผู้มีออกเสียง 54 ล้านคนที่เข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์ (9)
ดูเตอร์เตได้ใจชาวฟิลิปปินส์จากการประกาศใช้ยาแรงแก้ปัญหาอาชญากรรมและความยากจนอย่างรวดเร็ว ทั้งยังให้สัญญาจะขุดรากถอนโคนปัญหาอื่นๆ ที่หมักหมมกัดกินแดนตากาล็อก
ถึงแม้จากการหาเสียงอย่างก้าวร้าวดุดัน กระทั่งถูกอากีโน ตราหน้าเปรียบเทียบเป็นฮิตเลอร์ รวมทั้งเตือนว่าเขาอาจรื้อฟื้นระบอบเผด็จการกลับมาครอบงำประเทศ แต่ดูเตอร์เตยังคงตอกย้ำระหว่างให้สัมภาษณ์จากดาเวาเมื่อวันอังคาร (10) ว่า จะกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศภายใน 6 เดือน รวมทั้งกำจัดการคอร์รัปชั่น โดยบอกว่า ข้าราชการทุจริตสมควรตายหรือลาออก และย้ำว่า จะสนับสนุนให้ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมพวกอาชญากร
ทั้งนี้ ระหว่างหาเสียง ดูเตอร์เตสร้างความขุ่นเคืองให้แก่นักวิจารณ์จำนวนมาก แต่สะกดจิตผู้สนับสนุนอยู่หมัดด้วยคำสัญญาละวางกฎหมายสิทธิมนุษยชนและไล่ปลิดชีพอาชญากรนับหมื่น รวมทั้งอภัยโทษตัวเองจากการสังหารหมู่
แม้พยายามหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นแบบสุดขั้ว แต่ดูเตอร์เตที่ถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า ส่งเสริมระบอบศาลเตี้ยที่ทำให้มีคนตายกว่า 1,000 คนในดาเวานั้น ยืนกรานว่า การปราบปรามอาชญากรรมอย่างเข้มงวดรุนแรง จะเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และเขาพร้อมสังหารคนเลว
คู่แข่งสำคัญของดูเตอร์เต ทั้งอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย มานูเอล “มาร์” โรซาส ซึ่งประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ให้การสนับสนุน และวุฒิสมาชิก เกรซ โป ต่างยอมรับความพ่ายแพ้และแสดงความยินดีต่อนักการเมืองที่ถือเป็นคนวงนอกชนชั้นนำของฟิลิปปินสืผู้นี้ หลังจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า นายกเทศมนตรีวัย 71 ปีที่บริหารดาเวาแบบถึงลูกถึงคน ได้คะแนนเสียงนำผู้สมัครที่มาเป็นอันดับสองถึงกว่า 6 ล้านเสียง จากคะแนนที่นับแล้ว 90% ของผู้มีออกเสียง 54 ล้านคนที่เข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์ (9)
ดูเตอร์เตได้ใจชาวฟิลิปปินส์จากการประกาศใช้ยาแรงแก้ปัญหาอาชญากรรมและความยากจนอย่างรวดเร็ว ทั้งยังให้สัญญาจะขุดรากถอนโคนปัญหาอื่นๆ ที่หมักหมมกัดกินแดนตากาล็อก
ถึงแม้จากการหาเสียงอย่างก้าวร้าวดุดัน กระทั่งถูกอากีโน ตราหน้าเปรียบเทียบเป็นฮิตเลอร์ รวมทั้งเตือนว่าเขาอาจรื้อฟื้นระบอบเผด็จการกลับมาครอบงำประเทศ แต่ดูเตอร์เตยังคงตอกย้ำระหว่างให้สัมภาษณ์จากดาเวาเมื่อวันอังคาร (10) ว่า จะกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศภายใน 6 เดือน รวมทั้งกำจัดการคอร์รัปชั่น โดยบอกว่า ข้าราชการทุจริตสมควรตายหรือลาออก และย้ำว่า จะสนับสนุนให้ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมพวกอาชญากร
ทั้งนี้ ระหว่างหาเสียง ดูเตอร์เตสร้างความขุ่นเคืองให้แก่นักวิจารณ์จำนวนมาก แต่สะกดจิตผู้สนับสนุนอยู่หมัดด้วยคำสัญญาละวางกฎหมายสิทธิมนุษยชนและไล่ปลิดชีพอาชญากรนับหมื่น รวมทั้งอภัยโทษตัวเองจากการสังหารหมู่
แม้พยายามหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นแบบสุดขั้ว แต่ดูเตอร์เตที่ถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า ส่งเสริมระบอบศาลเตี้ยที่ทำให้มีคนตายกว่า 1,000 คนในดาเวานั้น ยืนกรานว่า การปราบปรามอาชญากรรมอย่างเข้มงวดรุนแรง จะเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และเขาพร้อมสังหารคนเลว