แทบแน่นอนแล้วว่า “โรดริโก ดูเตอร์เต” จะก้าวมาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของฟิลิปปินส์ โดยผลคะแนนของศึกเลือกตั้งวันจันทร์(9พ.ค.) ที่หลั่งไหลเข้ามาและจากการยอมรับความพ่ายแพ้ของคู่แข่งคนสำคัญ เป็นเครื่องยืนยันว่านายกเทศมนตรีขาโหดสไตล์ดิบเถื่อนที่ถูกขนานนามว่า “ดูเตอร์เต แฮร์รี” เป็นที่โดนใจของเหล่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียง
ดูเตอร์เต นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา 7 สมัย ตั้งแต่ปี 1988 โกยคะแนนนิยมจากคำประกาศจะใช้วิธีโหดแต่รวดเร็วในการคลี่คลายปัญหาอาชญากรรมและความขัดสนในประเทศ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวเลวร้ายลงแม้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจากเครือข่ายอาสาสมัครที่เรียกว่า PPCRV ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมาธิการการเลือกตั้งฟิลิปปินส์(ComElect) ให้นับคะแนนโหวต ระบุว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งคราวนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจนถึงช่วงค่ำวันจันทร์(9พ.ค.) หลังรับคะแนนไปได้ 80 เปอร์เซนต์ พบว่านายดูเตอร์เต ได้คะแนนเสียง 13.2 ล้านเสียงหรือราว 38.72 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคู่แข่งที่มีคะแนนใกล้เขามากที่สุดคือ มานูเอล โรซาส ได้คะแนนไป 22.67 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่านายดูเตอร์เต ราว 5.5 ล้านเสียง
วุฒิสมาชิก เกรซ โป ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ หลังจากมีคะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 21.87 เปอร์เซนต์ "ฉันขอแสดงความยินดีกับนายกเทศมนตรีดูเตอร์เต" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว " เขาเป็นผู้สมัครที่มีคะแนนนำอย่างชัดเจน และได้รับเลือกจากเสียงส่วนมากของประชาชน"
ก่อนหน้าที่ผลคะแนนล่าสุดจะออกมา นายดูเตอร์เต ได้พูดเหมือนกับเป็นผู้ชนะแล้ว โดยเขาได้เรียกร้องให้คู่แข่งสงบศึก ตามหลังการหาเสียงที่ขมขื่นและแตกแยกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าจะไม่กล่าวอ้างชัยชนะจนกว่าจะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
ดูเตอร์เต นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา 7 สมัย ตั้งแต่ปี 1988 โกยคะแนนนิยมจากคำประกาศจะใช้วิธีโหดแต่รวดเร็วในการคลี่คลายปัญหาอาชญากรรมและความขัดสนในประเทศ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวเลวร้ายลงแม้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจากเครือข่ายอาสาสมัครที่เรียกว่า PPCRV ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมาธิการการเลือกตั้งฟิลิปปินส์(ComElect) ให้นับคะแนนโหวต ระบุว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งคราวนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจนถึงช่วงค่ำวันจันทร์(9พ.ค.) หลังรับคะแนนไปได้ 80 เปอร์เซนต์ พบว่านายดูเตอร์เต ได้คะแนนเสียง 13.2 ล้านเสียงหรือราว 38.72 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคู่แข่งที่มีคะแนนใกล้เขามากที่สุดคือ มานูเอล โรซาส ได้คะแนนไป 22.67 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่านายดูเตอร์เต ราว 5.5 ล้านเสียง
วุฒิสมาชิก เกรซ โป ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ หลังจากมีคะแนนตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 21.87 เปอร์เซนต์ "ฉันขอแสดงความยินดีกับนายกเทศมนตรีดูเตอร์เต" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว " เขาเป็นผู้สมัครที่มีคะแนนนำอย่างชัดเจน และได้รับเลือกจากเสียงส่วนมากของประชาชน"
ก่อนหน้าที่ผลคะแนนล่าสุดจะออกมา นายดูเตอร์เต ได้พูดเหมือนกับเป็นผู้ชนะแล้ว โดยเขาได้เรียกร้องให้คู่แข่งสงบศึก ตามหลังการหาเสียงที่ขมขื่นและแตกแยกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าจะไม่กล่าวอ้างชัยชนะจนกว่าจะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ