น.พ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เปิดเผยจากกรณีมหาวิทยาลัยรังสิตมีการตรวจพบการทุจริตการสอบตรงเข้าคณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2558 ด้วยการติดกล้องวงจรปิดไว้ที่ขาแว่น เพื่อส่งสัญญาณไปยังผู้รับปลายทาง และส่งคำตอบกลับมายังนาฬิกาสมาร์ทวอตช์ ซึ่งตรวจยึดได้ 3 เรือน และประกาศยกเลิกการสอบดังกล่าว และตัดสิทธิ์การเข้าสอบนักเรียนที่ทำการทุจริต พร้อมส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรปากคลองดำเนินคดีนั้น นักเรียนที่ทุจริตการสอบเมื่อมีประวัติการทำผิดแล้ว การเข้าเรียนแพทย์คงจะยาก หรือแม้ว่าจะสามารถเข้าเรียนแพทย์ได้ แต่เมื่อจบจะต้องมีการสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์กับแพทยสภา จึงจะสามารถประกอบวิชาชีพแพทย์ได้ ซึ่งจะมีการตรวจสอบประวัติที่เข้มข้น หากตรวจเจอว่ามีประวัติการทุจริตจะไม่อนุญาตให้สอบขอใบอนุญาตฯเป็นแพทย์โดยเด็ดขาด เนื่องจากวิชาชีพแพทย์ต้องมีความซื่อสัตย์ เพราะเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนจำนวนมาก ในอนาคตอาจโกงการตรวจคนไข้ หรือทำเรื่องทุจริตที่ส่งผลกระทบได้อีก จึงต้องคัดออกไปตั้งแต่ต้น
สำหรับมาตรการป้องกันการทุจริตในการสอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แพทยสภามีการตรวจเข้มอยู่แล้ว โดยมีการเช็กบัตรประชาชนว่าเป็นตัวจริงมาสอบหรือไม่ และไม่อนุญาตให้นำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเข้าห้องสอบเลย เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมาก จึงต้องป้องกันเต็มที่ เพราะคนที่โกงไม่เหมาะที่จะเป็นแพทย์ ถ้าจับได้ก็ให้ออก
สำหรับมาตรการป้องกันการทุจริตในการสอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แพทยสภามีการตรวจเข้มอยู่แล้ว โดยมีการเช็กบัตรประชาชนว่าเป็นตัวจริงมาสอบหรือไม่ และไม่อนุญาตให้นำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเข้าห้องสอบเลย เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมาก จึงต้องป้องกันเต็มที่ เพราะคนที่โกงไม่เหมาะที่จะเป็นแพทย์ ถ้าจับได้ก็ให้ออก