นครศรีธรรมราช - ผวจ.นครศรีธรรมราชสุดทน ร่อนหนังสือสั่งเทศบาลนครศรีฯ ยกเลิกประมูลงานฉาว “แห่นางดานนครศรีธรรมราช” “เชาว์วัศน” จนมุมออกประกาศยกเลิกให้บริษัทรับเงินซื้อซองคืน แต่ยิ้มร่าจ่อจ้างวิธีพิเศษ นักกฎหมายยันความผิดสำเร็จแล้ว หวั่นไม่มีหน่วยงานไหนกล้าหืออีกเช่นเคย
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีการประมูลงานประเพณีสำคัญ “แห่นางดานนครศรีธรรมราช” สุดอื้อฉาวเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2560 เพื่อจะจัดงานในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์นครศรีธรรมราช วงเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งได้เกิดเรื่องอื้อฉาวหลังผู้เข้าร่วมประมูลจ้างเหมาได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดเหตุการณ์ความผิดปกติในขั้นตอนการประกวดราคาอย่างเห็นได้ชัด โดยมีบริษัทผู้รับจ้างเข้ายื่นซอง 3 ราย และ 2 ใน 3 รายเชื่อว่าการจัดประกวดราคาได้จัดขึ้นโดยมีผู้ที่ถูกวางตัวเป็นผู้รับจ้างไว้แล้ว
เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้เข้าสอบคุณสมบัติ ไม่ได้เข้านำเสนอข้อมูลกลับมีชื่ออยู่ในผู้ที่มีคุณสมบัติครบและเป็นผู้ชนะการประมูลในภายหลังถึง 10 วัน จากที่มีการเปิดซอง และสรุปผลต่อหน้า 2 รายแรกไปแล้ว ขณะที่ผู้เข้าประกวดราคา 2 ราย ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ปป.ช..นครศรีธรรมราช และ ป.ป.ช.สำนักงานใหญ่ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความกล้าหาญ ท้าทายต่อระเบียบการปฏิบัติ และข้อกฎหมายของคณะกรรมการ และผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในการจัดประมูลงานนี้
ล่าสุด นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ออกหนังสือแจ้งประกาศให้บริษัทผู้รับเหมาทั้ง 3 ราย มารับเงินค่าซื้อเอกสารสอบราคาภายใน 3 วัน นับจากออกหนังสือ ส่วนในความสำคัญของหนังสือฉบับนี้ นายเชาว์วัศน ได้อ้างตามประกาศเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ลงวันที่ 7 มีนาคม 2560 เรื่องการสอบราคาจ้างเหมาดำเนินการจัดระบบการแสดง แสง เสียง สื่อผสมฯ กิจกรรมงานประเพณีแห่นางดานเมืองนครศรีธรรมราช ประจำปี 2560 ขายซองเอกสารระหว่างวันที่ 8 มี.ค.60 ถึงวันที่ 22 มี.ค.60 และกำหนดเปิดซอง 23 มี.ค.60 ไปแล้ว
โดยนายเชาว์นวัศ อ้างอีกว่า ได้มีหนังสือจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ นศ.0023.4/8865 ลงวันที่ 4 เม.ย.60 เห็นว่าการสอบราคาจ้างดังกล่าวดำเนินการไม่ถูกต้อง เทศบาลจึงขอยกเลิกการสอบราคาจ้างข้างต้น โดยให้นำเอกสารไปขอคืนค่าซื้อเอกสารสอบราคา นอกจากนั้น ผู้เกี่ยวข้องภายในเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ระบุว่า การประมูลงานที่ล้มเหลวครั้งนี้ทำให้เป็นโอกาสในการใช้วิธีการจัดจ้างแบบวิธีพิเศษแทน เข้าทำนองที่มีการเตรียมการรองรับไว้แล้ว
ส่วนการจัดประมูลดังกล่าวนั้น มีรายงานว่า ได้มีกำหนดในการเปิดซองเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา เทศบาลได้นัดเปิดซองประกวดราคาที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 23 มีนาคม เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา และพร้อมกันนั้น ได้ให้ผู้ประกอบการเข้านำเสนอแนวคิดการจัดงาน ปรากฏว่า มีผู้เข้ามานำเสนอเพียง 2 ราย คือ บริษัท ส. และ ร้าน อ. โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณารวม 100 คะแนน ผู้ผ่านการประเมินจะต้องได้ 80 คะแนนขึ้นไป การดำเนินการนำเสนอเสร็จสิ้นในเวลา 17.00 น.หลังจากนั้น จึงดำเนินการเปิดซองปรากฏว่า บริษัท ส.ได้เสนอราคา 1,998,800 บาท และร้าน อ.เสนอ 1,895,500 บาท และแล้วเสร็จในเวลา 18.00 น.กรรมการจึงบอกว่าจะประกาศผู้ชนะอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
จนกระทั่งวันที่ 24 มีนาคม 2560 ปรากฏว่า กรรมการพิจารณาการประกวดราคาลาทำงานพร้อมกัน จนวันที่ 27 มีนาคม ยังไม่สามารถประกาศผู้ชนะการประมูลได้ แต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 60 กลับมีการประกาศทางระบบ EGP ว่า มีผู้ประกอบการผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ 3 รายคือ 1.บริษัท ส. 2.บริษัท ร. และ 3.ร้าน อ. จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่า บริษัทในลำดับที่ 2 คือ บริษัท ร.ไม่ปรากฏตัวนำเสนอแนวคิดงานเพื่อให้กรรมการพิจารณาในวันที่ 23 มีนาคมด้วยซ้ำ และไม่มีการเปิดซอง เพราะไม่นำเสนองานคุณสมบัติจึงไม่ครบ แต่กลับผ่านการพิจารณาคุณสมบัติได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และมีการประกาศออกมาหลังการเปิดซองผ่านไปแล้วถึง 10 วัน
โดยมีการประกาศให้บริษัทที่ไม่มาสอบนำเสนอแนวคิดรายนี้ชนะการประมูลไปด้วยวงเงิน 1,551,000 บาท ซึ่งมีผู้ลงนามประกาศ คือ นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ภายหลังบริษัทอีก 2 ราย ที่เข้าร่วมนำเสนอ และผ่านเกิดซองอย่างครบถ้วนได้ร่วมกันร้องเรียนหลายหน่วยงาน และเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
ขณะที่นิติกรในหน่วยงานแห่งหนึ่งที่กำลังติดตามข้อมูลเรื่องนี้ ระบุว่า ความผิดที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้วแม้ว่าจะมีการประกาศยกเลิกในภายหลังก็ตาม เนื่องจากพฤติการณ์ และขั้นตอนไม่ชอบตามระเบียบปฏิบัติและข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือที่เรียกว่า พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ดังนั้น อยู่ที่ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกล้าที่จะดำเนินการแค่ไหน ทำนองเดียวกับถูกล้อมปล้นบ้านแล้วเจ้าของบ้านจับได้ คนปล้นนำของมาคืนแล้วจบซึ่งไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
นิติกรรายเดิมระบุอีกว่า มั่นใจว่าไม่มีหน่วยงานใดดำเนินการต่อความไม่ปกติของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาการปล่อยน้ำเน่าเสียจากบ่อขยะลงแหล่งน้ำสาธารณะ พื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ปัญหาความไม่ปกติในการใช้งบปรับปรุงสนามกีฬากว่า 13.4 ล้าน ที่ปัจจุบัน เละยิ่งกว่าสนามชนวัว หรือการใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท กับโครงการประปาที่ไม่มีผลสัมฤทธิ์กลับมา โดยเน้นไปที่งานการวางท่อและการเช่าบ่อน้ำโดยไม่สามารถใช้งานได้จริง เป็นต้น