ความคืบหน้าเหตุไฟป่าในรัฐแอลเบอร์ตา ทางตอนใต้ของแคนาดา ซึ่งยังเป็นแหล่งทรายน้ำมันที่สำคัญของประเทศ ทางการรัฐแอลเบอร์ตา ประกาศอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสกัดไฟป่าไม่ให้ลุกลาม กับมีการแจ้งผู้ประกอบการโรงงานพื้นที่เรื่องให้ระงับการผลิตไว้ชั่วคราว ผลจากไฟป่ายังทำให้ผลผลิตน้ำมันของแคนาดาลดลงถึง 1 ใน 3
จากไฟป่าที่ลุกลามมาเป็นวันที่ 3 มีพื้นที่ที่ถูกเผาทำลายไปแล้วมากกว่า 850 ตารางกิโลเมตร (328.2 ตารางไมล์) ส่วนใหญ่คือเมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ ซึ่งมีอาการบ้านเรือนถูกเผามากถึง 16,000 หลัง และทางการต้องขยายพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินลงไปทางใต้ ตามทิศทางของไฟป่า ที่เติบโตขึ้นถึง 5 เท่า แต่ยังมีประชาชน 25,000 คน ในพื้นที่ทางเหนือที่อพยพออกจากบ้านเรือนในวันอังคาร สามารถกลับมาสำรวจความเสียหายที่บ้านเรือนของตนเองได้แล้ว
ทั้งนี้ สภาพอากาศร้อนจัด แห้งแล้ง และมีลมแรงกับสภาพพื้นที่ ซึ่งเป็นทรายน้ำมันทำให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว แม้อุตุนิยมวิทยาจะคาดว่า จะมีฝนตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ทางการท้องถิ่นยังไม่แจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากไฟป่าในครั้งนี้หรือไม่ แม้จะพบอุบัติเหตุรถยนต์เกิดขึ้นในระหว่างการอพยพ และเมื่อวันอังคารไฟยังลุกลามเข้าใกล้สนามบิน ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด ส่วนนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศว่า รัฐบาลกลางจะทำงานร่วมกับกาชาดสากลในการดูแลผู้ประสบภัย
จากไฟป่าที่ลุกลามมาเป็นวันที่ 3 มีพื้นที่ที่ถูกเผาทำลายไปแล้วมากกว่า 850 ตารางกิโลเมตร (328.2 ตารางไมล์) ส่วนใหญ่คือเมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ ซึ่งมีอาการบ้านเรือนถูกเผามากถึง 16,000 หลัง และทางการต้องขยายพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินลงไปทางใต้ ตามทิศทางของไฟป่า ที่เติบโตขึ้นถึง 5 เท่า แต่ยังมีประชาชน 25,000 คน ในพื้นที่ทางเหนือที่อพยพออกจากบ้านเรือนในวันอังคาร สามารถกลับมาสำรวจความเสียหายที่บ้านเรือนของตนเองได้แล้ว
ทั้งนี้ สภาพอากาศร้อนจัด แห้งแล้ง และมีลมแรงกับสภาพพื้นที่ ซึ่งเป็นทรายน้ำมันทำให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว แม้อุตุนิยมวิทยาจะคาดว่า จะมีฝนตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ทางการท้องถิ่นยังไม่แจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากไฟป่าในครั้งนี้หรือไม่ แม้จะพบอุบัติเหตุรถยนต์เกิดขึ้นในระหว่างการอพยพ และเมื่อวันอังคารไฟยังลุกลามเข้าใกล้สนามบิน ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด ส่วนนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศว่า รัฐบาลกลางจะทำงานร่วมกับกาชาดสากลในการดูแลผู้ประสบภัย