รอยเตอร์ - จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาเผยเมื่อวันจันทร์ (8 ก.พ.) ว่าจะถอนเครื่องบินรบทั้ง 6 ลำกลับจากปฏิบัติการถล่มทางอากาศโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในอิรักและซีเรีย ยุติบทบาทในความพยายามสู้รบกับพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งเป็นที่ถกเถียงของผู้คนในประเทศ
พรรคลิเบรัลของนายทรูโดคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ด้วยคำสัญญาว่าจะถอนเครื่องบินรบออกมา ทว่าต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของพันธมิตรนานาชาติที่ไม่พอใจต่อการตัดสินใจดังกล่าว ขณะที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของแคนาดาเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2015 ตามการอนุมติของรัฐบาลชุดก่อนที่นำโดยพรรคคอนเซอร์เวทีฟ
“ไม่ว่าภารกิจใดๆ คุณจำเป็นต้องเลือก คุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้ทั้งหมด และในการตัดสินใจของเรามีความปรารถนาทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือภูมิภาคและดำเนินการในแนวทางที่ถูกต้องเป็นตัวชี้นำ” ทรูโดกล่าวระหว่างแถลงข่าว “ผู้คนที่ถูกคุกคามโดยพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในทุกวันไม่ต้องการให้เราแก้แค้นให้ แต่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเรา”
รัฐบาลเผยว่า แคนาดาจะยุติภารกิจทิ้งระเบิดในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ แต่จะคงเครื่องบินลาดตระเวน 2 ลำไว้ในภูมิภาคเช่นเดียวกับเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงอีกลำ นอกจากนี้แล้วยังจะเพิ่มจำนวนครูฝึกทหารแก่กองกำลังชาวเคิร์ดในภาคเหนือของอิรักอีก 3 เท่า เป็น 200 นาย จากทั้งหมด 70 นายในปัจจุบัน”
การตัดสินใจของแคนาดามีขึ้นในขณะที่กองทัพซีเรียรุกคืบมุ่งสู่แนวชายแดนซีเรียในวันจันทร์ (8 ก.พ.) ในปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซียและอิหร่าน หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสงครามนี้ ที่กำลังทำลายการเจรจาสันติภาพครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีให้ย่อยยับ หลังจากมีอันต้องล่มไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่มันจะเข้าสู่ขั้นจริงจังด้วยซ้ำ
ทรูโดบอกว่า ภารกิจทางทหารใหม่ข้างต้นจะมีระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี และหลังจากนั้นจะมีการประเมินอีกครั้ง พร้อมระบุว่าประสบการณ์ของแคนาดาในอัฟกานิสถานทำให้ทราบว่าแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับสนับสนุนเสถียรภาพในระยะยาว นั่นคือการช่วยชาวบ้านท้องถิ่นต่อสู้เพื่อให้พวกเขาได้ดินแดนคืนมา
ความปรารถนาของแคนาดาในการเข้าร่วมภารกิจทางทหารในต่างแดนลดน้อยลงไป หลังต้องพัวพันในอัฟกานิสถานนานกว่า 10 ปี ที่สิ้นสุดลงในปี 2011 โดยระหว่างนั้นมีทหารของพวกเขาต้องสังเวยชีวิต 158 นาย
อนึ่ง จากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ พบว่าชาวแคนาดามีความเห็นแตกแยกกันอย่างมากเกี่ยวกับบทบาทของกองทัพของประเทศในการสู้รบกับไอเอส