นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ออกหลักเกณฑ์ 6 ข้อทำได้ และ 8 ข้อห้าม เกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นหลักเกณฑ์ที่ยังไม่สามารถทำให้กฎหมายประชามติมีความชัดเจน ปราศจากข้อสงสัยได้ เพราะบางข้อความในกฎหมายยังคลุมเครือที่อาจถูกนำไปใช้ตีความเพื่อให้คุณให้โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่สามารถตอบโจทย์ได้เท่าที่ควร เป็นเพียงการขยายความเนื้อหาสาระของกฎหมายในเชิงอธิบายเพิ่มขึ้น
ส่วนบทบัญญัติในกฎหมายประชามติที่ห้ามเผยแพร่ข้อความที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง อาจมีความผิดถูกจำคุก 10 ปีนั้น ถือเป็นเนื้อหาที่อาจถูกตีความเพื่อเล่นงานคนที่เห็นต่างได้ ทำให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากร่างรัฐธรรมนูญสุ่มเสี่ยงถูกดำเนินคดี และสื่อมวลชนที่อาจต้องทำหน้าที่บนความไม่แน่นอน ทั้งนี้ ฝาก กกต.ช่วยพิจารณาหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพื่อให้ผู้เห็นต่างอย่างสุจริตใจ มีพื้นที่แสดงความคิดเห็น
ส่วนบทบัญญัติในกฎหมายประชามติที่ห้ามเผยแพร่ข้อความที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง อาจมีความผิดถูกจำคุก 10 ปีนั้น ถือเป็นเนื้อหาที่อาจถูกตีความเพื่อเล่นงานคนที่เห็นต่างได้ ทำให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากร่างรัฐธรรมนูญสุ่มเสี่ยงถูกดำเนินคดี และสื่อมวลชนที่อาจต้องทำหน้าที่บนความไม่แน่นอน ทั้งนี้ ฝาก กกต.ช่วยพิจารณาหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ เพื่อให้ผู้เห็นต่างอย่างสุจริตใจ มีพื้นที่แสดงความคิดเห็น
