นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงจุดยืนที่เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติอย่างชัดเจน 4 ประการ ทำให้มีผู้มีอำนาจในบ้านเมืองหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ตอบโต้แบบใช้อารมณ์ผสมการข่มขู่ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองย่อมมีสิทธิที่จะไม่พอใจจุดยืนและความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ผู้มีอำนาจไม่ควรใช้อารมณ์ตอบโต้ เพราะเมื่อใดที่ใช้อารมณ์ก็จะไปบดบังสติปัญญาที่เห็นเหตุเป็นผล ทำให้ไม่ได้พิจารณาเนื้อหาสาระของความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างถ่องแท้
นายองอาจ กล่าวอีกว่า สังคมประชาธิปไตยการที่คนมีจุดยืนความคิดเห็นที่แตกต่างกันย่อมเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความแตกแยก ขัดแย้ง รุนแรง ที่ต้องใช้อารมณ์ เข้าหากันแต่อย่างไร แม้จะมีจุดยืน ความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นศัตรูกันโดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด ที่จะใช้กับคนไทยทั้งประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนคนไทยทุกภาคส่วนควรได้มีโอกาสแสดงออกอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ส่วนใครที่ละเมิดกฎหมายก็จัดการเอาผิดตามกฎหมายได้อยู่แล้ว ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองจึงควรเปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสุขุมน่าจะเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากกว่าที่จะใช้ท่าทีที่ปิดกั้น ข่มขู่ ผู้เห็นต่าง
นายองอาจ กล่าวอีกว่า สังคมประชาธิปไตยการที่คนมีจุดยืนความคิดเห็นที่แตกต่างกันย่อมเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความแตกแยก ขัดแย้ง รุนแรง ที่ต้องใช้อารมณ์ เข้าหากันแต่อย่างไร แม้จะมีจุดยืน ความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นศัตรูกันโดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด ที่จะใช้กับคนไทยทั้งประเทศ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนคนไทยทุกภาคส่วนควรได้มีโอกาสแสดงออกอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ส่วนใครที่ละเมิดกฎหมายก็จัดการเอาผิดตามกฎหมายได้อยู่แล้ว ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองจึงควรเปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสุขุมน่าจะเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากกว่าที่จะใช้ท่าทีที่ปิดกั้น ข่มขู่ ผู้เห็นต่าง