รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ตัวแทนเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) เครือข่าย ฟ.ฟัน สร้างสุขและกลุ่มคนรักหลักประ กันสุขภาพ เข้าพบ นางเพ็ชรา ถาวระ รองเลขาธิ การสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อสอบถามความคืบหน้า หลังยื่นหนังสือเรียกร้องให้สำนัก งานประกันสังคม (สปส.) ปฏิรูปสิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีทันตกรรม
นายมนัส โกศล ประธาน คปค.กล่าวหลังหารือว่า สปส.แจ้งว่าล่าสุด บอร์ด สปส. มีมติให้คณะกรรม การแพทย์ ประกันสังคม ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มเพดานเงินค่าทันตกรรมจากเดิม 600 บาทเป็น 900 บาทต่อปี รวมถึงการให้สิทธิค่ารักษากรณีทันตกรรมเท่าเทียมหน่วยงานอื่นๆ ตามมติเห็นชอบของคณะกรรมการแพทย์ให้ไปศึกษาด้วย คาดจะได้ข้อสรุปเสนอบอร์ด สปส. ภายในเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนข้อเรียกร้องให้ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่ายค่าบริการทันตกรรมไปก่อนตามอัตราปัจจุบันคนละ 600 บาทนั้น สปส.จะออกประกาศได้ภาย ในเดือนกรกฎาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายมองว่า การเพิ่มเงินเพดานค่ารักษาไม่จำเป็น เพราะการกำหนดเพดานค่ารักษา หมายความว่า ส่วนเกินจากเพดานจะตกเป็นภาระของผู้ประกันตน จึงอยากให้ สปส.ปฏิรูปสิทธิประโยชน์ตามที่เครือข่ายเรียกร้องคือ ต้องได้รับการรักษาตามความเป็นจริง โดยไม่สำรองจ่าย เท่าเทียมกับสิทธิของหน่วยงานอื่น และเพิ่มการตรวจสุขภาพทางช่องปากประจำปีทั้งในคลินิก โรงพยาบาลรัฐและเอกชนหรือเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่ รวมถึงการตั้งคณะทำงานปฏิรูปสิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีทันตกรรมโดยมีตัวแทน สปส. คปค. และเครือข่าย ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย เพื่อจะหาข้อสรุปเรื่องนี้ร่วมกัน หลังจากนี้เครือข่ายและผู้ประกันตนจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
นายมนัส โกศล ประธาน คปค.กล่าวหลังหารือว่า สปส.แจ้งว่าล่าสุด บอร์ด สปส. มีมติให้คณะกรรม การแพทย์ ประกันสังคม ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มเพดานเงินค่าทันตกรรมจากเดิม 600 บาทเป็น 900 บาทต่อปี รวมถึงการให้สิทธิค่ารักษากรณีทันตกรรมเท่าเทียมหน่วยงานอื่นๆ ตามมติเห็นชอบของคณะกรรมการแพทย์ให้ไปศึกษาด้วย คาดจะได้ข้อสรุปเสนอบอร์ด สปส. ภายในเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนข้อเรียกร้องให้ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่ายค่าบริการทันตกรรมไปก่อนตามอัตราปัจจุบันคนละ 600 บาทนั้น สปส.จะออกประกาศได้ภาย ในเดือนกรกฎาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายมองว่า การเพิ่มเงินเพดานค่ารักษาไม่จำเป็น เพราะการกำหนดเพดานค่ารักษา หมายความว่า ส่วนเกินจากเพดานจะตกเป็นภาระของผู้ประกันตน จึงอยากให้ สปส.ปฏิรูปสิทธิประโยชน์ตามที่เครือข่ายเรียกร้องคือ ต้องได้รับการรักษาตามความเป็นจริง โดยไม่สำรองจ่าย เท่าเทียมกับสิทธิของหน่วยงานอื่น และเพิ่มการตรวจสุขภาพทางช่องปากประจำปีทั้งในคลินิก โรงพยาบาลรัฐและเอกชนหรือเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่ รวมถึงการตั้งคณะทำงานปฏิรูปสิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีทันตกรรมโดยมีตัวแทน สปส. คปค. และเครือข่าย ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย เพื่อจะหาข้อสรุปเรื่องนี้ร่วมกัน หลังจากนี้เครือข่ายและผู้ประกันตนจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด