น.ส.อารีนันท์ ธรรมครูปัตย์ และ น.ส.ปิยะภรณ์ ลีลาศ พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโน โลยี หรือ ปอท. ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เจตญารัตน์ ทรัพย์พัฒน์ เจ้าของเฟซบุ๊ก ชื่อ “เครซี่แบรนด์เนม”
หลังถูกหลอกประมูลซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านทางเฟซบุ๊ก เสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดย น.ส.ปิยะภรณ์ เล่าว่า ได้สมัครสมาชิกของเพจนี้ ซึ่งมีสมัครชิกอยู่กว่า 2 แสนคน และประมูลซื้อกระเป๋า 2 ครั้ง ซึ่งได้รับสินค้าตามปกติ ต่อมาจึงขอซื้อโดยตรงกับ น.ส.เจตญารัตน์ แต่กลับไม่ได้รับสินค้า และมาทราบภายหลังว่า มีสมาชิกในเพจดังกล่าวทวงสินค้าที่ยังไม่ได้รับเช่นเดียวกัน จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก
ขณะที่ น.ส.อารีนันท์ ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ได้นำกระเป๋าแบรนด์เนม 4 ใบ มูลค่ากว่า 50,000 บาท ไปฝากขายกับ น.ส.เจตญารัตน์ แต่กลับไม่ได้รับเงินตั้งแต่ปี 2558 และมาทราบภายหลังว่า น.ส.เจตญารัตน์ ได้นำกระเป๋าไปประมูลที่เพจดังกล่าว ทั้งนี้ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดี เพราะมีผู้เสียหายถึง 55 คน ที่ต้องเสียทรัพย์สินไปจำนวนมาก
นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เจตญารัตน์ เป็นเพียงลูกจ้างร้าน และเคยกระทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อ โกงหลายคดี และล่าสุดเพิ่งได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมาขณะที่ตำรวจ ระบุว่า จากความสะดวกในการซื้อของผ่านออนไลน์ ทำให้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกลวงเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้จะโพสต์ขายของที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดจนเป็นที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามจะเร่งดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย และติดตามตัวผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
หลังถูกหลอกประมูลซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านทางเฟซบุ๊ก เสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดย น.ส.ปิยะภรณ์ เล่าว่า ได้สมัครสมาชิกของเพจนี้ ซึ่งมีสมัครชิกอยู่กว่า 2 แสนคน และประมูลซื้อกระเป๋า 2 ครั้ง ซึ่งได้รับสินค้าตามปกติ ต่อมาจึงขอซื้อโดยตรงกับ น.ส.เจตญารัตน์ แต่กลับไม่ได้รับสินค้า และมาทราบภายหลังว่า มีสมาชิกในเพจดังกล่าวทวงสินค้าที่ยังไม่ได้รับเช่นเดียวกัน จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก
ขณะที่ น.ส.อารีนันท์ ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ได้นำกระเป๋าแบรนด์เนม 4 ใบ มูลค่ากว่า 50,000 บาท ไปฝากขายกับ น.ส.เจตญารัตน์ แต่กลับไม่ได้รับเงินตั้งแต่ปี 2558 และมาทราบภายหลังว่า น.ส.เจตญารัตน์ ได้นำกระเป๋าไปประมูลที่เพจดังกล่าว ทั้งนี้ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดี เพราะมีผู้เสียหายถึง 55 คน ที่ต้องเสียทรัพย์สินไปจำนวนมาก
นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เจตญารัตน์ เป็นเพียงลูกจ้างร้าน และเคยกระทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อ โกงหลายคดี และล่าสุดเพิ่งได้รับการประกันตัวออกมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมาขณะที่ตำรวจ ระบุว่า จากความสะดวกในการซื้อของผ่านออนไลน์ ทำให้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกลวงเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้จะโพสต์ขายของที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดจนเป็นที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามจะเร่งดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย และติดตามตัวผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป