MGR Online - สาวใหญ่พร้อมพวกหอบหลักฐานแจ้งความตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังถูกหลอกประมูลกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านเพจเฟซบุ๊กแล้วไมได้ของ สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 10.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) น.ส.อารีนันท์ ธรรมครูปัตย์ อายุ 46 ปี และ น.ส.ปิยะภรณ์ ลีลาศ อายุ 36 ปี พร้อม ผู้เสียหายอีก 5 คน เดินทางร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ พอดี ผกก.2 บก.ปอท. และ พ.ต.ต.ทศพร ศรีสัจจา สารวัตร (สอบสวน) บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดต่อ น.ส.เจตญารัตน์ ทรัพย์พัฒน์ อายุ 38 ปี หลังถูกหลอกประมูลกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อเพจ “crazy brandname” มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายคนร้ายและเอกสารการโอนเงินมามอบให้เจ้าหน้าที่
น.ส.อารีนันท์กล่าวว่า เมื่อปี 2558 ตนต้องการจะขายกระเป๋าแบรนด์เนมจำนวน 4 ใบ มูลค่ารวมประมาณ 60,000 บาท จึงนำไปฝากขายที่ร้านย่านสุขุมวิท 28 (อาคารอินเตอร์เชนจ์ 21 ทาวเวอร์) โดยมี น.ส.เจตญารัตน์เป็นผู้ออกใบรับกระเป๋า จากนั้น น.ส.เจตญารัตน์ก็นำกระเป๋าของตนไปประมูลขายตามเพจต่างๆ และตนได้ติดตามตลอด จนกระทั่งขายกระเป๋าแบรนด์เนมได้แล้วแต่ยังไม่มีการโอนเงินมาให้ตน ซึ่ง น.ส.เจตญารัตน์อ้างว่ายังขายไม่ได้ จึงเดินทางไปที่ร้านปรากฏว่าโดนปิดไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตนต้องเข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ หลังทราบว่า น.ส.เจตญารัตน์ เป็นลูกจ้างของร้านดังกล่าว
ด้าน น.ส.ปิยะภรณ์เปิดเผยว่า ตนเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มเพจเฟซบุ๊ก “crazy brandname” ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200,000 กว่าคนและเป็นเพจประมูลกระเป๋าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อ ต่อมา น.ส.เจตญารัตน์ ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “good good good” ได้โพสต์เปิดประมูลกระเป๋า “Bao Bao issey miyake” ตนจึงได้ประมูลด้วยเนื่องจากในสองครั้งแรกที่ผ่านมาได้รับของตามปกติ จึงไว้ใจเลยสั่งซื้อโดยตรงจำนวน 2 ใบพร้อมโอนเงินกว่า 55,000 บาทเข้าบัญชีของ น.ส.วรินญา (ไม่ทราบนามสกุล) จากนั้นผ่านไปประมาณ 1 เดือนยังไม่ได้รับสินค้า ตนจึงสอบถามไปทาง น.ส.เจตญารัตน์ อ้างว่าสินค้ามีตำหนิจะนำไปเปลี่ยนให้ สุดท้ายก็ไม่ได้รับสินค้า กระทั่งตัดสินใจไปหา น.ส.วรินญาที่บ้านพักเพื่อสอบถามสาเหตุ
น.ส.ปิยะภรณ์เปิดเผยอีกว่า จากการพูดคุยกับ น.ส.วรินญา พบว่าเป็นเพื่อนของ น.ส.เจตญารัตน์ และได้มาขอใช้บัญชีธนาคารเนื่องจาก น.ส.เจตญารัตน์ เคยกระทำการลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวว่า การซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ค่อนข้างสะดวกทำให้มิจฉาชีพเข้ามาโพสต์ขายของหลอกลวงประชาชนว่ามีสินค้าราคาถูกกว่าตามท้องตลาด ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานก่อนติดตามตัวผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน พร้อมขยายผลต่อไป
