นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมหรือ สศอ. กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมและต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่ขณะนี้เป็นฐานการผลิตยานยนต์อันดับ 12 ของโลกด้วยยอดการผลิตกว่า 2 ล้านคันต่อปี สู่การผลิตยานยนต์ในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อาทิ รถยนต์ ไฮบริด ปลั๊กอิน ในอนาคตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นจากปัจจัย เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม และปัจจัยด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม ยังจัดเป็นโปรดักส์แชมป์เปี๊ยนตัวใหม่ของไทยยังไม่ได้
ขณะนี้ สศอ.อยู่ระหว่างรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการในเรื่องนี้ และเดินหน้าเตรียมจัดทำแนวนโยบายชุดมาตรการส่งเสริมการลงทุนเสนอต่อนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะสามารถเสนอได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยเป็นการลงทุนควบคู่กันทั้งการผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วนสำคัญๆ รวมถึงแบตเตอรีลิเธียม
นายศิริรุจ กล่าวว่า รถยนต์ไฮบริด ปลั๊กอิน ที่จะผลิตในประเทศไทย จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าอีโคคาร์ โดยเป็นรถขนาดกลางขึ้นไป ปัจจุบันผู้ประกอบการรถยนต์ค่ายยุโรปเริ่มประกอบรถยนต์ ไฮบริด ปลั๊กอินในประเทศไทยแล้ว ขณะที่ทางผู้ประกอบการรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ก็พยายามแข่งขันในเรื่องนี้ ทางด้านมาตรการส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ มีเรื่องการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ได้รับการบรรจุดรวมอยู่ใน พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ของบีโอไอ อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม รถยนต์ประเภทนี้ เมื่อผลิตออกมาจริง ก็จะยังคงมีราคาค่อนข้างสูง ประมาณคันละกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป
ขณะนี้ สศอ.อยู่ระหว่างรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการในเรื่องนี้ และเดินหน้าเตรียมจัดทำแนวนโยบายชุดมาตรการส่งเสริมการลงทุนเสนอต่อนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะสามารถเสนอได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยเป็นการลงทุนควบคู่กันทั้งการผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วนสำคัญๆ รวมถึงแบตเตอรีลิเธียม
นายศิริรุจ กล่าวว่า รถยนต์ไฮบริด ปลั๊กอิน ที่จะผลิตในประเทศไทย จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าอีโคคาร์ โดยเป็นรถขนาดกลางขึ้นไป ปัจจุบันผู้ประกอบการรถยนต์ค่ายยุโรปเริ่มประกอบรถยนต์ ไฮบริด ปลั๊กอินในประเทศไทยแล้ว ขณะที่ทางผู้ประกอบการรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ก็พยายามแข่งขันในเรื่องนี้ ทางด้านมาตรการส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ มีเรื่องการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ได้รับการบรรจุดรวมอยู่ใน พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ของบีโอไอ อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม รถยนต์ประเภทนี้ เมื่อผลิตออกมาจริง ก็จะยังคงมีราคาค่อนข้างสูง ประมาณคันละกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป
