ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงอัลโค อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากในระหว่างวัน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,556.41 จุด ลดลง 20.55 จุด หรือ -0.12% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,833.40 จุด ลดลง 17.29 จุด หรือ -0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,041.99 จุด ลดลง 5.61 จุด หรือ -0.27%
ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด ก่อนที่จะอ่อนแรงลงและปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการ โดยอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงก์ ออฟ อเมริกา และซิตี้กรุ๊ป มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดตลาดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง
หุ้นอัลโค อิงค์ ปิดลบ 0.4% ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพร่วงลง โดยหุ้นเอนโด อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 8% หุ้นอินซิส เทราพูติกส์ ดิ่งลง 19%
หุ้นยาฮู พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากมีรายงานว่า เดลี เมล แอนด์ เจนเนอรัล ทรัสต์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อรายใหญ่ของอังกฤษ กำลังเจรจากับบริษัทไพรเวทอิควิตี้หลายแห่ง เพื่อการเสนอซื้อธุรกิจข่าวและสื่อของยาฮู อิงค์
หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำดีดตัวขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยหุ้นคินรอสส์ โกลด์ คอร์ป และหุ้นแองโกลโกลด์ อาชาตี ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.5%
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้ ขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มองว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยมาก เมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนมี.ค. ซึ่งต่างก็ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,556.41 จุด ลดลง 20.55 จุด หรือ -0.12% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,833.40 จุด ลดลง 17.29 จุด หรือ -0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,041.99 จุด ลดลง 5.61 จุด หรือ -0.27%
ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด ก่อนที่จะอ่อนแรงลงและปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการ โดยอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการหลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงก์ ออฟ อเมริกา และซิตี้กรุ๊ป มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดตลาดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง
หุ้นอัลโค อิงค์ ปิดลบ 0.4% ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพร่วงลง โดยหุ้นเอนโด อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 8% หุ้นอินซิส เทราพูติกส์ ดิ่งลง 19%
หุ้นยาฮู พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากมีรายงานว่า เดลี เมล แอนด์ เจนเนอรัล ทรัสต์ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อรายใหญ่ของอังกฤษ กำลังเจรจากับบริษัทไพรเวทอิควิตี้หลายแห่ง เพื่อการเสนอซื้อธุรกิจข่าวและสื่อของยาฮู อิงค์
หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำดีดตัวขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยหุ้นคินรอสส์ โกลด์ คอร์ป และหุ้นแองโกลโกลด์ อาชาตี ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.5%
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้ ขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มองว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยมาก เมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนมี.ค. ซึ่งต่างก็ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.