ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ในเดือนม.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,336.66 จุด พุ่งขึ้น 183.12 จุด หรือ +1.13% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,504.24 จุด ลดลง 12.71 จุด หรือ -0.28% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,912.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.50 จุด หรือ +0.50%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทะยานขึ้นถึง 8% หลังจากที่รัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเปิดช่องทางในการเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
นายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ถ้าหากกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆมีความเห็นพ้องกันในการจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน รัสเซียก็พร้อมเข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 4.1% ส่วนหุ้นเมอร์ฟี ออยล์ และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 10% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้นกว่า 11%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยลดลงจากเดือนธ.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนธ.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 1 ปี จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 257,000 ตำแหน่ง
หุ้นยาฮู อิงค์ ร่วงลง 4.75% หลังจากทางบริษัทประกาศปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงาน 1,700 ตำแหน่ง
ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้น Amazon.com ร่วงลง 3.8% หุ้นโฮม ดีโปท์ ดิ่งลง 1.2% และหุ้น Lowe’s Cos รว่งลง 6.2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2558 และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,336.66 จุด พุ่งขึ้น 183.12 จุด หรือ +1.13% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,504.24 จุด ลดลง 12.71 จุด หรือ -0.28% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,912.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.50 จุด หรือ +0.50%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทะยานขึ้นถึง 8% หลังจากที่รัสเซียส่งสัญญาณพร้อมเปิดช่องทางในการเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
นายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ถ้าหากกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆมีความเห็นพ้องกันในการจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน รัสเซียก็พร้อมเข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป และหุ้นเชฟรอน คอร์ป ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 4.1% ส่วนหุ้นเมอร์ฟี ออยล์ และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 10% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้นกว่า 11%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยลดลงจากเดือนธ.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนธ.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 267,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 1 ปี จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 257,000 ตำแหน่ง
หุ้นยาฮู อิงค์ ร่วงลง 4.75% หลังจากทางบริษัทประกาศปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงาน 1,700 ตำแหน่ง
ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้น Amazon.com ร่วงลง 3.8% หุ้นโฮม ดีโปท์ ดิ่งลง 1.2% และหุ้น Lowe’s Cos รว่งลง 6.2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2558 และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค.