พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบสถิติการอ่านของคนไทย จากการแถลงข่าวนำเสนอผลสำรวจการอ่านของประชากรคนไทย พ.ศ.2558 โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเอ พาร์ค) และรู้สึกยินดีที่คนไทยให้ความสำคัญกับการอ่านมากขึ้น โดยมีเวลาการอ่านเฉลี่ย 66 นาทีต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อปี 2556 ที่อ่านเพียง 37 นาทีต่อวัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปรารภว่า การอ่านทำให้คนรอบรู้และฉลาดขึ้น หลายคนรู้จักใช้ประโยชน์จากการอ่านในการสร้างอาชีพจนมีฐานะร่ำรวย แม้จะไม่ได้รับการศึกษาที่สูงนัก ในปัจจุบันการอ่านไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในหนังสืออย่างเดียว แต่ยังมีสื่อประเภทอื่น เช่น สื่อออนไลน์ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ อีเมล์ ฯลฯ ที่คนนิยมใช้มากขึ้น เพื่ออ่านข้อมูลที่มีสาระ ไม่นับรวมข้อความการสนทนาหรือติดต่อสื่อสาร และต้องอ่านอย่างมีวิจารณญาณ รู้จักสืบค้นข้อมูลจากรอบด้าน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือถูกชักจูง
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า โดยปกตินายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่รักการอ่านมาก ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ทุกวันนี้ท่านจะอ่านหนังสือพิมพ์วันละหลายฉบับ รวมถึงหนังสือที่ส่วนราชการต่าง ๆ เสนอขึ้นมา รวมทั้งยังติดตามข่าวสารและสาระที่มีประโยชน์จากเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์อีกหลายประเภท ดังนั้น จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการอ่านของคนไทยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี มีเวลาการอ่านนานขึ้น เป็น 34 นาทีต่อวัน จากเมื่อก่อน 27 นาที ขณะที่วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่ชอบอ่านมากที่สุดถึง 94 นาทีต่อวัน รองลงมาคือ วัยเด็กและวัยทำงานที่ชอบอ่าน 60 นาทีต่อวัน
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า โดยปกตินายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่รักการอ่านมาก ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ทุกวันนี้ท่านจะอ่านหนังสือพิมพ์วันละหลายฉบับ รวมถึงหนังสือที่ส่วนราชการต่าง ๆ เสนอขึ้นมา รวมทั้งยังติดตามข่าวสารและสาระที่มีประโยชน์จากเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์อีกหลายประเภท ดังนั้น จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการอ่านของคนไทยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี มีเวลาการอ่านนานขึ้น เป็น 34 นาทีต่อวัน จากเมื่อก่อน 27 นาที ขณะที่วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่ชอบอ่านมากที่สุดถึง 94 นาทีต่อวัน รองลงมาคือ วัยเด็กและวัยทำงานที่ชอบอ่าน 60 นาทีต่อวัน