รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว "Chuchart Srisaeng" ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ลงมติในวาระที่ 1 รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ....... ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่เข้มงวดต่อผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากศาลพิพากษาว่าผิด แต่เจ้าตัวหลบหนี เพื่อให้หมดอายุความ เช่น นายทักษิณ ชินวัตร นายประชา มาลีนนท์ หรือคนอื่นๆ ที่หลบหนีการถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาล แม้ว่าจะหลบหนีไปกี่ปี คดีก็ไม่ขาดอายุความ เป็นต้น ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คาดว่าจะพิจารณาเสร็จและประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ภายในปีนี้
โดยนายชูชาติ ศรีแสง โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว "Chuchart Srisaeng" ดังนี้
.....มีข่าวเกี่ยวกับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยเมื่อวานวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ลงมติในวาระที่ 1 รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ....... และได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 15 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน มีกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน 60 วัน
.....ตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดให้การพิจารณาใช้ระบบไต่สวนคือศาลสามารถเรียกพยานมาไต่สวนเองได้ ถ้าผู้ต้องหาและจำเลยหลบหนีให้อายุความสะดุดหยุดลง คือคดีไม่มีขาดอายุความ ถ้าเป็นการหลบหนีในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ให้ศาลพิจารณาคดีและพิพากษาคดีลับหลังจำเลยได้
.....ถ้าศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแล้ว จำเลยหลบหนี เช่นนายทักษิณ ชินวัตร นายประชา มาลีนนท์ หรือคนอื่นๆ ที่หลบหนีการถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาล ต่อไปไม่ว่าจะหลบหนีไปกี่ปีคดีก็ไม่ขาดอายุความ หมายความว่าตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่สามารถจับตัวมาลงโทษตามคำพิพากษาได้ ถึงแก่ความตายเมื่อไหร่จึงจบกัน
.....ถ้าจำเลยหลบหนีในระหว่างการพิจารณาของศาลนอกจากนายประกันต้องเสียค่าปรับแล้ว จำเลยมีโทษจำคุกและโทษปรับด้วย
.....การอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ถ้าจำเลยไม่ถูกคุมขังอยู่ จำเลยจะต้องมาปรากฎตัวต่อศาลชั้นต้นจึงสามารถยื่นอุทธรณ์ได้
.....ถ้าเจ้าหน้าของรัฐไม่ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีประชาชนที่เป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องคดีต่อศาลได้
.....กำหนดให้มีการยึดทรัพย์ของจำเลยที่ได้ไปจากการทุจริตและประพฤติมิชอบมาเป็นของรัฐด้วย
.....พระราชบัญญัติฉบับนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติน่าจะพิจารณาเสร็จและประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ภายในปีนี้ ครับ
โดยนายชูชาติ ศรีแสง โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว "Chuchart Srisaeng" ดังนี้
.....มีข่าวเกี่ยวกับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยเมื่อวานวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ลงมติในวาระที่ 1 รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ....... และได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 15 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน มีกำหนดระยะเวลาการดำเนินงาน 60 วัน
.....ตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดให้การพิจารณาใช้ระบบไต่สวนคือศาลสามารถเรียกพยานมาไต่สวนเองได้ ถ้าผู้ต้องหาและจำเลยหลบหนีให้อายุความสะดุดหยุดลง คือคดีไม่มีขาดอายุความ ถ้าเป็นการหลบหนีในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ให้ศาลพิจารณาคดีและพิพากษาคดีลับหลังจำเลยได้
.....ถ้าศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแล้ว จำเลยหลบหนี เช่นนายทักษิณ ชินวัตร นายประชา มาลีนนท์ หรือคนอื่นๆ ที่หลบหนีการถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาล ต่อไปไม่ว่าจะหลบหนีไปกี่ปีคดีก็ไม่ขาดอายุความ หมายความว่าตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่สามารถจับตัวมาลงโทษตามคำพิพากษาได้ ถึงแก่ความตายเมื่อไหร่จึงจบกัน
.....ถ้าจำเลยหลบหนีในระหว่างการพิจารณาของศาลนอกจากนายประกันต้องเสียค่าปรับแล้ว จำเลยมีโทษจำคุกและโทษปรับด้วย
.....การอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ถ้าจำเลยไม่ถูกคุมขังอยู่ จำเลยจะต้องมาปรากฎตัวต่อศาลชั้นต้นจึงสามารถยื่นอุทธรณ์ได้
.....ถ้าเจ้าหน้าของรัฐไม่ดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีประชาชนที่เป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องคดีต่อศาลได้
.....กำหนดให้มีการยึดทรัพย์ของจำเลยที่ได้ไปจากการทุจริตและประพฤติมิชอบมาเป็นของรัฐด้วย
.....พระราชบัญญัติฉบับนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติน่าจะพิจารณาเสร็จและประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ภายในปีนี้ ครับ