ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,633.11 จุด เพิ่มขึ้น 97.72 จุด หรือ +0.56% ดัชนี แนสแด็ก ปิดที่ 4,846.62 จุด เพิ่มขึ้น 79.83 จุด หรือ +1.67% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,055.01 จุด เพิ่มขึ้น 17.96 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลนได้เน้นย้ำในระหว่างการกล่าววสุนทรพจน์ที่สโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดกำลังจับตาผลกระทบจากภาวะทรุดตัวของเศรษฐกิจโลก, ราคาน้ำมันที่ดิ่งลง และความผันผวนในตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีดตัวสู่ระดับ 96.2 ในเดือนมี.ค. หลังแตะระดับ 94.0 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 94.0 เนื่องจากตลาดหุ้นเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล
หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 2.2% ส่วนหุ้นแอปเปิลทะยานขึ้น 2.4% หลังจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ในนามของสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐ (FBI) ได้ถอนฟ้องบริษัทแอปเปิล อิงค์ ภายหลังจากที่ FBI สามารถเข้าถึงข้อมูล ไอโฟน 5c ของมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงที่เมืองซานเบอร์นาร์ดิโนได้แล้ว
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นขานรับประธานเฟดส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นวิลเลียม คอส ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 3.7% หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป พุ่งขึ้น 4.9% และหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้น 7.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานนั้น จะส่งผลกระทบต่อกำไรในภาคธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.5% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนทั่วสหรัฐประจำเดือนมี.ค. และเฟดสาขาดัลลัสจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. ขณะที่วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
ส่วนในวันศุกร์ จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,633.11 จุด เพิ่มขึ้น 97.72 จุด หรือ +0.56% ดัชนี แนสแด็ก ปิดที่ 4,846.62 จุด เพิ่มขึ้น 79.83 จุด หรือ +1.67% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,055.01 จุด เพิ่มขึ้น 17.96 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลนได้เน้นย้ำในระหว่างการกล่าววสุนทรพจน์ที่สโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) เมื่อวานนี้ว่า เฟดจะยังคงทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดกำลังจับตาผลกระทบจากภาวะทรุดตัวของเศรษฐกิจโลก, ราคาน้ำมันที่ดิ่งลง และความผันผวนในตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีดตัวสู่ระดับ 96.2 ในเดือนมี.ค. หลังแตะระดับ 94.0 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 94.0 เนื่องจากตลาดหุ้นเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล
หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 2.2% ส่วนหุ้นแอปเปิลทะยานขึ้น 2.4% หลังจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ในนามของสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐ (FBI) ได้ถอนฟ้องบริษัทแอปเปิล อิงค์ ภายหลังจากที่ FBI สามารถเข้าถึงข้อมูล ไอโฟน 5c ของมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงที่เมืองซานเบอร์นาร์ดิโนได้แล้ว
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นขานรับประธานเฟดส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นวิลเลียม คอส ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 3.7% หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป พุ่งขึ้น 4.9% และหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้น 7.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานนั้น จะส่งผลกระทบต่อกำไรในภาคธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.5% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนทั่วสหรัฐประจำเดือนมี.ค. และเฟดสาขาดัลลัสจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. ขณะที่วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
ส่วนในวันศุกร์ จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน