ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ทางรอดประเทศไทยกับบทบาทเครือข่ายต้านทุจริต” ตอนหนึ่งว่า การจะแก้ปัญหาการทุจริตได้จะต้องเริ่มแก้ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้การแก้ปัญหาทุจริตที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาทุจริต โดยตั้งศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่มีการบูรณาการทุกหน่วยงาน รวมทั้งเอกชนมาร่วมกันแก้ปัญหาการทุจริต มีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการทุจริตออกมาเกือบ 10 ฉบับ รวมทั้งมีการตั้งศาลทุจริตซึ่งตนดีใจในการที่มีการตั้งศาลทุจริต และอยากรอดูว่าใครจะเป็นคนขึ้นศาลนี้เป็นคนแรก ซึ่งคงไม่ใช่ตน แต่ไม่แน่อาจมีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างที่จะสร้างระบบป้องกันการทุจริตและการรับรู้ปัญหา แต่ตนก็ไม่ได้พูดว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีผลงานที่เลิศเลอ แต่เราตั้งใจทำจริงๆ โดยเชื่อว่าในปีนี้ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของเราจะดีขึ้น และน่าจะได้ 50 คะแนนตามที่เราต้องการจริงๆ เพราะที่ผ่านมาเราพยายามทำทุกอย่าง แต่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คะแนนเราต่ำ เพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้มีที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นในปี 2560 หากเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็มั่นใจว่าดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของเราจะอยู่ที่50-54 คะแนน ทั้งนี้ตนจะรอดูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งว่า จะสามารถทำได้เหมือนที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ แต่ขอแค่ว่าอย่าได้คนชั่วมาเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ไพบูลย์ ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างที่จะสร้างระบบป้องกันการทุจริตและการรับรู้ปัญหา แต่ตนก็ไม่ได้พูดว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีผลงานที่เลิศเลอ แต่เราตั้งใจทำจริงๆ โดยเชื่อว่าในปีนี้ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของเราจะดีขึ้น และน่าจะได้ 50 คะแนนตามที่เราต้องการจริงๆ เพราะที่ผ่านมาเราพยายามทำทุกอย่าง แต่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คะแนนเราต่ำ เพราะรัฐบาลนี้ไม่ได้มีที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นในปี 2560 หากเรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็มั่นใจว่าดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นของเราจะอยู่ที่50-54 คะแนน ทั้งนี้ตนจะรอดูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งว่า จะสามารถทำได้เหมือนที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ แต่ขอแค่ว่าอย่าได้คนชั่วมาเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน