xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลปลื้มไทยทะยาน 9 อันดับดัชนีชี้วัดคอร์รัปชัน เร่งผลักดัน GovChannel สร้างภาพไทยทันสมัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด (แฟ้มภาพ)
รัฐบาลปลื้มองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติจัดอันดับไทยดีขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์คอร์รัปชัน ขยับขึ้น 9 อันดับ นายกฯ หวังสังคมร่วมกันต้านทุจริต ปลูกฝังจิตสำนึกสู่เยาวชนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เร่งกระทรวงเทคโนโลยีฯ ยกระดับ GovChannel พัฒนาระบบภาษีไปไหน และ G-News ตอบโจทย์ความโปร่งใส และการเข้าถึงข่าวสารภาครัฐ สร้างภาพลักษณ์ไทย ทันสมัยเป็นสากล

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดคอร์รัปชันโลก ปี 2558 โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) แล้ว โดยประเทศไทยได้ 38 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 เป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย และอันดับที่ 76 จากประเทศทั่วโลก ขยับขึ้นมาจากเดิม 9 อันดับ

“ท่านนายกฯ ยอมรับกับผลการจัดอันดับดังกล่าว และเห็นว่าประเทศไทยควรจะต้องใสสะอาดมากขึ้นเรื่อยๆ จากความตั้งใจจริงในการทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เพื่อต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน เช่น การตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) การตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) การโยกย้ายข้าราชการที่ได้รับการร้องเรียนหรือมีข้อมูลว่ามีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต เพื่อเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการออก พ.ร.บ.การอํานวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 และการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นต้น”

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ผลการจัดอันดับขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติสอดคล้องกับผลสำรวจสถานการณ์คอร์รัปชันไทย ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อ มิ.ย. 2558 ที่ระบุว่า สถานการณ์คอร์รัปชันไทยในปี 2558 ดีที่สุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากรัฐบาลได้กำหนดให้การปราบปรามการทุจริตเป็น “วาระแห่งชาติ” และปฏิบัติการอย่างเข้มแข็งแล้ว ยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วนที่ตื่นตัวต่อปัญหาและต่อต้านการทุจริต จนเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาสังคม

รวมทั้งในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็มีกลไกพิเศษหลายประการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันในระยะยาวอีกด้วย

“ท่านนายกฯ เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันจะต้องไม่เน้นเพียงการปราบปรามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่ประชาชนโดยเฉพาะในระดับเยาวชน ซึ่งถือเป็นการป้องกันก่อนเกิดปัญหาที่ดีที่สุดด้วย เช่น การสร้างสำนึกไทย ไม่โกง แก่ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ การใช้หลักสูตร “โตไปไม่โกง” ในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อให้สำนึกรักความซื่อสัตย์หยั่งรากลึกลงในจิตใจของเยาวชนไทย เป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”

พล.ต.สรรเสริญกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เร่งรัดให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผลักดันบริการใหม่ภายใต้ Gov Channel หรือศูนย์กลางบริการภาครัฐสำหรับประชาชน ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะระบบภาษีไปไหน เพื่อรายงานข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน G-News ให้ดียิ่งขึ้น

“ระบบภาษีไปไหน เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ที่รัฐบาลจะให้ข้อมูลการใช้จ่ายเงินของภาครัฐในหลายรูปแบบ ทั้งการกระจายตัวของงบประมาณลงถึงระดับตำบล และภาพรวมในแต่ละปี พื้นที่โครงการก่อสร้างภาครัฐ อันดับการใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละหน่วยงานที่อัพเดททุกเดือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนมั่นใจว่า เงินภาษีทุกบาทที่เสียไป จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างเหมาะสม และตรวจสอบได้ทุกที่ ทุกเวลา ส่วน G-News เป็นแอปพลิเคชันแจ้งข้อมูลข่าวสารภาครัฐ ทั้งข่าวสารประจำวันทั่วไป ข่าวภาครัฐ ข่าวการลงทุน และข่าวเด่น การเตือนภัยแล้ง ภัยหนาว น้ำท่วม ฝนตก หรือสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมไปถึงการแจ้งเตือนรายบุคคล เช่น การชำระค่าน้ำค่าไฟ การต่อภาษีรถยนต์ บัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือการเสียภาษี และยังช่วยลดปัญหาข่าวลือผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะเป็นข้อมูลส่งตรงจากภาครัฐ ที่ทุกคนสามารถเลือกรับเฉพาะข้อมูลที่สนใจ หรือเฉพาะพื้นที่ที่อาศัยอยู่ได้ โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลด G-News ได้แล้ววันนี้ เพียงค้นหา G-News ได้ที่ศูนย์กลางแอพลิเคชั่นภาครัฐ (GAC) หรือทาง Google play เพื่อติดตั้งพร้อมใช้งานได้ทันที”

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงภาครัฐกับประชาชนเข้าด้วยกัน คนไทยจะได้เรียนรู้ แก้ไขปัญหา และเติบโตไปพร้อมๆ กับรัฐบาล พร้อมทั้งได้กำชับให้หน่วยงานรัฐทุกหน่วย หมั่นตรวจสอบและบรรจุข้อมูลข่าวสารที่สำคัญ ทันสมัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตน ลงใน G-news อยู่เสมอ ตลอดจนเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถสอบถามหรือให้ข้อเสนอแนะได้โดยตรง ใช้ภาษาที่สื่อสารเข้าใจง่าย และติดตามประเมินผลการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

“ท่านนายกฯ จะเป็นประธานเปิดตัวระบบภาษีไปไหนในเร็วๆ นี้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตาม เพราะจะเป็นมิติใหม่ของประเทศไทยในการให้ข้อมูลภาครัฐที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล มติ คตช. และภาคีสมาชิกความร่วมมือเพื่อการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (OGP) ในการสร้างความโปร่งใส ให้อำนาจประชาชน ต่อต้านการทุจริต และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน”


กำลังโหลดความคิดเห็น