รายงานข่าวจากมูลนิธิอิสรชน มูลนิธิผู้ช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิ ได้ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ทำการสำรวจผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่ประจำปี 2558 ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวนผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 3,311คน เป็นเพศชาย 2.041คน และเป็นเพศหญิง 1,270 คน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากปี 2557 ที่มีบุคคลดังกล่าวจำนวน 3,140 คน หรือประมาณร้อยละ 2
สำหรับพื้นที่เขตที่พบประชาชนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะมากที่สุดได้แก่ 1.เขตพระนคร 595 คน 2.เขตบางซื่อ 296 คน 3.เขตจตุจักร 235 คน 4.เขตปทุมวัน 215 คน 5.เขตสัมพันธวงศ์ 195 คน 6.เขตคลองเตย 152 คน 7.เขตราชเทวี 144 คน 8.เขตบางกะปิ 137 คน 9.เขตบางรัก 134 คน 10.เขตพญาไท 133 คน
ทั้งนี้กลุ่มคนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ จะแบ่งออกเป็นประเภท ต่างๆ 1.คนเร่ร่อน 982 คน 2.ผู้ติดสุรา 854 คน 3.ผู้ใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อการหลักนอนแบบชั่วคราว 851 คน 4.ผู้ป่วยข้างถนน 675 คน 5.คนจนเมือง 579 คน 6.คนไร้บ้าน 465 คน 7.พนักงานบริการอิสระ 424 คน 8.ผู้พ้นโทษ 63 คน 9.ครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน 46 คน 10.ชาวต่างชาติเร่ร่อน 28 คน 11.ครอบครัวเร่ร่อน 384 คน 12.ผู้มีความหลากหลายทางเพศ 23 คน
ส่วนในปี 2557 กลุ่มคนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะพบว่ามี 1.คนเร่รอน 900 คน 2.ผู้ติดสุรา 806 คน 3.ผู้ใช้ที่สาธารณะหลับนอนชั่วคราว 824 คน 4.ผู้ป่วยข้างถนน 683 คน 5.คนจนเมือง 597 คน 6. คนไร้บ้าน 461 คน 7.พนักงานบริการอิสระ 398 คน 8.ผู้พ้นโทษ 56 คน 9. ครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน 34 คน 10. คนเร่รอนไร้บ้าน 323 คน 11.ชาวต่างชาติเร่ร่อน 22 คน 12.ผู้มีความหลากหลายทางเพศ 15 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะทุกประเภทมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเกือบทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตามในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวนคนเร่รอน ยังมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากร โดยนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะพบคนเร่ร่อนถึง 60,352 คน จากประชากรราว 8 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 0.7 ของประชากร แต่สำหรับกรุงเทพฯยังพบคนเร่ร่อน เพียง 3,311 คนจากประชากรราว 6 ล้านคน หรือ เพียงร้อยละ 0.05
ทั้งนี้มูลนิธิอิสรชนคาดว่าจำนวนคนเร่ร่อนจะเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 5-10% ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ฟื้นตัว ทำให้คนเกิดปัญหาว่างงานจนต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อนมากยิ่งขึ้น มีการปล่อยตัวนักโทษสู่สังคมมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีการวางแผนการรองรับบุคคลดังกล่าวในการประกอบอาชีพ ทำมาหากินต่างๆ ทำให้บุคคลบางส่วนต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อน
สำหรับพื้นที่เขตที่พบประชาชนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะมากที่สุดได้แก่ 1.เขตพระนคร 595 คน 2.เขตบางซื่อ 296 คน 3.เขตจตุจักร 235 คน 4.เขตปทุมวัน 215 คน 5.เขตสัมพันธวงศ์ 195 คน 6.เขตคลองเตย 152 คน 7.เขตราชเทวี 144 คน 8.เขตบางกะปิ 137 คน 9.เขตบางรัก 134 คน 10.เขตพญาไท 133 คน
ทั้งนี้กลุ่มคนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ จะแบ่งออกเป็นประเภท ต่างๆ 1.คนเร่ร่อน 982 คน 2.ผู้ติดสุรา 854 คน 3.ผู้ใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อการหลักนอนแบบชั่วคราว 851 คน 4.ผู้ป่วยข้างถนน 675 คน 5.คนจนเมือง 579 คน 6.คนไร้บ้าน 465 คน 7.พนักงานบริการอิสระ 424 คน 8.ผู้พ้นโทษ 63 คน 9.ครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน 46 คน 10.ชาวต่างชาติเร่ร่อน 28 คน 11.ครอบครัวเร่ร่อน 384 คน 12.ผู้มีความหลากหลายทางเพศ 23 คน
ส่วนในปี 2557 กลุ่มคนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะพบว่ามี 1.คนเร่รอน 900 คน 2.ผู้ติดสุรา 806 คน 3.ผู้ใช้ที่สาธารณะหลับนอนชั่วคราว 824 คน 4.ผู้ป่วยข้างถนน 683 คน 5.คนจนเมือง 597 คน 6. คนไร้บ้าน 461 คน 7.พนักงานบริการอิสระ 398 คน 8.ผู้พ้นโทษ 56 คน 9. ครอบครัวแรงงานเพื่อนบ้าน 34 คน 10. คนเร่รอนไร้บ้าน 323 คน 11.ชาวต่างชาติเร่ร่อน 22 คน 12.ผู้มีความหลากหลายทางเพศ 15 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะทุกประเภทมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเกือบทุกกลุ่ม
อย่างไรก็ตามในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวนคนเร่รอน ยังมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากร โดยนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะพบคนเร่ร่อนถึง 60,352 คน จากประชากรราว 8 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 0.7 ของประชากร แต่สำหรับกรุงเทพฯยังพบคนเร่ร่อน เพียง 3,311 คนจากประชากรราว 6 ล้านคน หรือ เพียงร้อยละ 0.05
ทั้งนี้มูลนิธิอิสรชนคาดว่าจำนวนคนเร่ร่อนจะเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 5-10% ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ฟื้นตัว ทำให้คนเกิดปัญหาว่างงานจนต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อนมากยิ่งขึ้น มีการปล่อยตัวนักโทษสู่สังคมมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีการวางแผนการรองรับบุคคลดังกล่าวในการประกอบอาชีพ ทำมาหากินต่างๆ ทำให้บุคคลบางส่วนต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อน
