คำสั่งของผู้นำรัสเซียผ่านกระทรวงกลาโหมให้ถอนทหารส่วนใหญ่ออกจากซีเรียตั้งแต่วันอังคารนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความประหลาดใจของหลายฝ่าย โดยผู้นำรัสเซียระบุภารกิจแทรกแซงซีเรีย ที่เริ่มเปิดฉากโจมตีที่มั่นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดมาตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี กองทหารรัสเซียสามารถทำลายเป้าหมายเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การรวมตัวของเหล่านักรบ และการทำลายล้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ของฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาลลงได้อย่างราบคาบ
ดังนั้นกองทัพรัสเซียจึงต้องเริ่มภารกิจถอนกำลังตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และประธานาธิบดีปูตินได้แจ้งเรื่องดังกล่าวต่อประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียแล้ว ขณะที่ความพยายามเจรจาสันติภาพในซีเรีย ที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ยังอยู่ระหว่างเร่งหาทางยุติภาวะสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานตลอดช่วง 5 ปี ส่วนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ต่างแสดงความยินดีที่รัสเซียเริ่มถอนทหารออกจากพื้นที่ในซีเรีย และอยู่ระหว่างเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป เช่นเดียวกับโฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ที่บอกว่าจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของรัสเซียในการตัดสินใจดังกล่าวคืออะไร
ดังนั้นกองทัพรัสเซียจึงต้องเริ่มภารกิจถอนกำลังตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และประธานาธิบดีปูตินได้แจ้งเรื่องดังกล่าวต่อประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรียแล้ว ขณะที่ความพยายามเจรจาสันติภาพในซีเรีย ที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ยังอยู่ระหว่างเร่งหาทางยุติภาวะสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานตลอดช่วง 5 ปี ส่วนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ต่างแสดงความยินดีที่รัสเซียเริ่มถอนทหารออกจากพื้นที่ในซีเรีย และอยู่ระหว่างเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป เช่นเดียวกับโฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ที่บอกว่าจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของรัสเซียในการตัดสินใจดังกล่าวคืออะไร
