xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นคิดหนักเรื่องช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามซีเรีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัฐบาลญี่ปุ่นใคร่ครวญอย่างหนัก หลังประชาคมโลกเรียกร้องให้ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามจากซีเรีย โดยเงื่อนไขการรับอพยพของญี่ปุ่นแทบจะปิดประตูสำหรับผู้อพยพ

นับแต่ที่สงครามกลางเมืองซีเรียเริ่มขึ้นเมื่อปี 2554 ผู้ลี้ภัยสงครามได้ไหลบ่าเข้ายุโรปมากกว่า 4ล้านคน โดยผู้อพยพเกือบ 2ล้านคนอยู่ในตุรกี แต่มีเพียงแค่ 2แสนคนเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับให้เข้าไปอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย ส่วนผู้คนที่เหลือจำต้องเช่าห้องพักราคาถูกในเมือง และมีหลายครอบครัวซึ่งมีสมาชิกมากถึง 10 คนต้องเบียดเสียดกันอยู่ในห้องเช่าขนาดเล็ก

บรรดาผู้อพยพไม่มีหลักประกันใดในชีวิตหรือความหวังใดสำหรับอนาคต โดยความหวังสุดท้ายของเหล่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ คือ การปักหลักในในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี หากแต่ประเทศต่างๆในยุโรปต่างกระอักกระอ่วนที่จะรับผู้อพยพจำนวนมากเข้าประเทศ โดยฝรั่งเศสและอังกฤษได้แสดงความพร้อมที่จะรับผู้ลี้ภัยประมาณ 20,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้อพยพหลายล้านคน

บรรดาชาติในประชาคมยุโรปเริ่มเรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่พัฒนาแล้ว ในกลุ่มจี-8 ช่วยแบ่งเบาภาระในการช่วยเหลือผู้อพยพชาวซีเรีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งมีสถิติการรับผู้อพยพน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศจี-8


ประตูปิดสำหรับผู้อพยพ ให้เงินช่วยเหลือแทน


องค์กรพัฒนาเอกชนและสื่อมวลชนรายใหญ่ในญี่ปุ่น เรียกร้องให้รัฐบาลของนายกฯชินโสะ อะเบะ แสดงความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกโดยช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยจากซีเรีย และเป็นการพิสูจน์ยุทธศาสตร์ทางการทูตของนายอาเบะที่เรียกว่า “การสร้างสันติภาพเชิงรุก” อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการรับผู้ลี้ภัยของญี่ปุ่นนั้นเข้มงวดอย่างมาก และต้องใช้เวลาในการพิจารณานาน 2-3 ปี โดยในปีที่แล้วรัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณารับผู้ลี้ภัยเพียงแค่ 11 คนเท่านั้น

นอกจากนี้รัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เห็นว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในดินแดนที่ห่างไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นถูกกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส สังหารอย่างเหี้ยมโหดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กระแสต่อต้านเรื่องผู้อพยพก็ยิ่งทวีมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ แห่งญี่ปุ่นได้กล่าวที่กรุงไคโร นครหลวงของอียิปต์ว่า ญี่ปุ่นจะมอบเงินช่วยเหลือมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มประเทศที่ต่อสู้กับกลุ่มไอเอส หากแต่หนทางในการเปิดรับผู้อพยพเข้ามายังแดนอาทิตย์อุทัยนั้นแทบจะปิดประตูตาย

กฎหมายควบคุมคนเข้าเมืองฉบับใหม่สุดเข้มงวด

ถึงแม้กระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นจะระบุว่า ญี่ปุ่นจะส่งเสริมการคุ้มครองผู้ลี้ภัยอย่างเหมาะสม ในฐานะที่เป็นสมาชิกของประชาคมนานาชาติ หากแต่เมื่อพิจารณาจากแผนควบคุมคนเข้าเมืองฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปีนั้น กลับพบว่า แดนอาทิตย์อุทัยเปิดทางต้อนรับเฉพาะชาวต่างชาติที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศเท่านั้น

แผนควบคุมคนเข้าเมืองฉบับล่าสุด ระบุว่า ญี่ปุ่นจะเปิดรับรับชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงและมีความรู้เข้ามา เพื่อร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมญี่ปุ่น รวมทั้งจัดหาแรงงานต่างชาติเข้าสู่ภาคการก่อสร้างให้เพียงพอ

หากแต่จะเพิ่มความรัดกุมต่อกฎที่ใช้กับการสมัครขอสถานภาพผู้ลี้ภัย เพราะในช่วงหลังๆ มานี้ จำนวนผู้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่ญี่ปุ่นโดยตั้งใจจะมาทำงานหรืออาศัยในประเทศมีมากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในกฎหมายฉบับใหม่นี้ คือ ชาวต่างชาติที่เดินทางมายังญี่ปุ่น เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงในบ้านเกิดของตนเอง ทั้งจากสงครามกลางเมือง รวมทั้งความรุนแรงในครอบครัว จะไม่ได้รับสถานภาพผู้ลี้ภัย หากไม่มีประวัติว่าต้องพบกับการทรมาน อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพเหล่านี้จะสามารถอยู่ในญี่ปุ่นได้เป็นเวลา 1 ปีด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

ตามเงื่อนไขนี้ ผู้อพยพถึงแม้จะอยู่ในญี่ปุ่นได้ชั่วคราว แต่ก็แทบจะไม่มีทางใช้ชีวิตแบบปกติสุขได้เลย เพราะไม่สามารถทำงานได้ และไม่มีหลักประกันด้านสุขภาพและสวัสดิการสังคมใดๆ


รัสเซียหนุนหลังซีเรีย สงครามยากจะยุติ


ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง ถึงแม้จะเห็นด้วยว่าญี่ปุ่นควรช่วยเหลือผู้อพยพ หากแต่การจะยอมรับผู้ลี้ภัยให้เข้ามาหรือไม่ ไม่ใช่หนทางคลี่คลายวิกฤติผู้ลี้ภัย เว้นเสียแต่ว่าจะสามารถยุติสงครามกลางเมืองซีเรีย ซึ่งคือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดวิกฤติผู้ลี้ภัยนี้

อย่างไรก็ตาม กองกำลังของรัฐบาลซีเรียภายใต้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และเมื่อมีการยื่นข้อเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกคำสั่งให้รัฐบาลซีเรียหยุดการโจมตีพลเรือน รัสเซียก็ใช้สิทธิ์ยับยั้งข้อเสนอดังกล่าว เพราะรัสเซียมีฐานทัพที่ตั้งอยู่ในซีเรีย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่รัสเซียจะหยุดสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาด

ตุรกี ซึ่งเป็นประเทศหน้าด่านที่รองรับผู้อพยพจากซีเรียมากที่สุด ได้ยื่นข้อเสนอให้สร้างเขตปลอดภัยภายในเขตแดนของซีเรีย เพื่อรองรับผู้ลี้ภัยและกำหนดให้เป็นเขตห้ามบิน เพื่อให้กองกำลังของรัฐบาลประธานาธิบดีอัสซาดโจมตีเขตดังกล่าวไม่ได้ ซึ่งภาวะที่ผู้ลี้ภัยไหลบ่าเข้าไปในยุโรปจะทุเลาลง หากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติรับรองข้อเสนอตั้งเขตปลอดภัยนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น