พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวเปิดงานเสวนาหัวข้อ "บทบาทศาสนาในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน" ที่คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับสภายุวพุทธิสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูถัมภ์ จัดขึ้น โดย พล.อ.เปรม กล่าวตอนหนึ่งว่า ศาสนาไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ศาสนาเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งพิเศษที่ช่วยทำคนให้เป็นคน และช่วยเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ป้องกันและยับยั้งการทุจริต และประพฤติมิชอบในบ้านเมืองได้ สำหรับประเด็นการทุจริตในชาตินั้น ตนเชื่อว่าการทุจริตไม่ได้ลดลง แม้ได้อันดับที่ดีขึ้น แต่คะแนนยังเท่าเดิม
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับศาสนา แต่ศาสนาจะเป็นเครื่องมือทำให้คนเข้าใจว่าการฉ้อฉลโกงชาติบ้านเมืองเป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เป็นสิ่งที่ต้องละเลย สอนลูกหลานให้เข้าใจว่าการโกงเป็นสิ่งอับอาย ประเทศของเรามีการโกงอยู่ระดับสูง ตนคิดว่าพวกเราต้องอายและขายหน้า เพราะชาติเราเป็นชาติขี้โกง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องช่วยลบล้างไม่ให้ใครว่าชาติขี้โกงได้
พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าการโกงคือการปล้นชาติ ซึ่งตนคิดว่าชาติของเราถูกปล้นโดยคนในชาติของเรา เป็นเรื่องแปลกและอันตรายมากที่สุด ทั้งนี้ ตนดีใจที่ สนช.คิดเรื่องนี้ อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และการร่วมมือดังกล่าวจะทำให้กลไกปล้นชาตินั้นลดลง สิ่งที่ตนมักพูดถึงเสมอคือการประพฤติปฏิบัติ ไม่โกงต้องเริ่มที่ตัวเอง หากตัวเองไม่โกง ครอบครัวไม่โกง องค์กรที่สังกัดไม่โกง ศาสนาจะเข้าไปช่วยได้ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาโกงต้องที่เริ่มตนเอง ต้องเริ่มที่เด็กไทย ถ้าบอกเด็กว่าการโกงเป็นเรื่องเหลวไหลจึงต้องไม่ปล่อยให้โกงชาติ ขณะที่เรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาลต้องฝังไว้ในความรู้สึกและทุกภาคส่วนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) ถูกดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ กรณีมีข้อความสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) กล่าวหาว่ามีทหารยศพลเอกซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า เรื่องการทุจริต ได้พูดไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับศาสนา แต่ศาสนาจะเป็นเครื่องมือทำให้คนเข้าใจว่าการฉ้อฉลโกงชาติบ้านเมืองเป็นบาป เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เป็นสิ่งที่ต้องละเลย สอนลูกหลานให้เข้าใจว่าการโกงเป็นสิ่งอับอาย ประเทศของเรามีการโกงอยู่ระดับสูง ตนคิดว่าพวกเราต้องอายและขายหน้า เพราะชาติเราเป็นชาติขี้โกง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องช่วยลบล้างไม่ให้ใครว่าชาติขี้โกงได้
พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าการโกงคือการปล้นชาติ ซึ่งตนคิดว่าชาติของเราถูกปล้นโดยคนในชาติของเรา เป็นเรื่องแปลกและอันตรายมากที่สุด ทั้งนี้ ตนดีใจที่ สนช.คิดเรื่องนี้ อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และการร่วมมือดังกล่าวจะทำให้กลไกปล้นชาตินั้นลดลง สิ่งที่ตนมักพูดถึงเสมอคือการประพฤติปฏิบัติ ไม่โกงต้องเริ่มที่ตัวเอง หากตัวเองไม่โกง ครอบครัวไม่โกง องค์กรที่สังกัดไม่โกง ศาสนาจะเข้าไปช่วยได้ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาโกงต้องที่เริ่มตนเอง ต้องเริ่มที่เด็กไทย ถ้าบอกเด็กว่าการโกงเป็นเรื่องเหลวไหลจึงต้องไม่ปล่อยให้โกงชาติ ขณะที่เรื่องจริยธรรมและธรรมาภิบาลต้องฝังไว้ในความรู้สึกและทุกภาคส่วนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) ถูกดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ กรณีมีข้อความสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) กล่าวหาว่ามีทหารยศพลเอกซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า เรื่องการทุจริต ได้พูดไปหมดแล้ว
