พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) ดูแลงานจราจร กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้หารือถึงแนวทางในการควบคุมรถทะเบียนต่างประเทศที่จะเข้ามาวิ่งในกรุงเทพมหานครช่วงที่มีการเปิดประชาคมอาเซียน เพราะขณะนี้ตามจังหวัดแถบชายแดนของประเทศไทยเริ่มมีรถต่างประเทศเข้ามาวิ่งมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาเบื้องต้นทางบช.น.ได้มีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทุกสน.ตรวจจับรถทะเบียนต่างประเทศที่นำมาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯทุกกรณี เพราะในลักษณะดังกล่าวหากนำมาวิ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่ามีความผิดเนื่องจากรถไม่ได้จดทะเบียน และเสียภาษีในราชอาณาจักรไทยเข้ามาวิ่งซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก มีโทษปรับ 10,000 บาทพร้อมทั้งจะต้องยึดรถไว้เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานและเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ทางบช.น.ก็จะไม่อนุญาตให้ขับรถต่อโดยเจ้าของรถจะต้องนำรถลากเพื่อลากรถกลับไปเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ประเทศไทยได้มีการทำอนุสัญญาข้อตกลงการนำรถข้ามชายแดน 4 ประเทศเท่านั้นคือไทย-มาเลเซีย ไทย-ลาว ไทย-เวียดนาม ไทย-กัมพูชา เท่านั้นส่วนประเทศอื่นๆยังอยู่ระหว่างการร่างข้อตกลงร่วมกัน
อย่างไรก็ตามทางบช.น.จะร่วมหารือกับทางกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กรมศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนในการจำกัดรถต่างประเทศที่จะเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นแม้จะมีการเปิดประชาคมอาเซียนและการเดินทางจะเสรีมากยิ่งขึ้นรถจากต่างประเทศจะสามารถเข้ามาวิ่งในประเทศไทยได้มากขึ้นแต่ทางบช.น.จะไม่อนุญาตให้นำรถต่างประเทศเข้ามาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะหากไม่มีการจำกัดและวางมาตรการจะส่งผลให้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ติดขัดมากยิ่งขึ้นรวมทั้งวัฒนธรรมการขับรถไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย พวงมาลัยรถที่อยู่คนละด้านยังเป็นข้อกำจัดที่จะเข้ามาวิ่งในเมืองหลวงที่มีปัญหาการจราจรติดเช่นเพราะจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอีกมาย ดังนั้นทางบช.น.จำเป็นจะต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางว่าจะสามารถดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวได้หรือไม่และจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาแนวทางร่วมกันเพื่อลดกละกระทบที่จะตามมา
อย่างไรก็ตามทางบช.น.จะร่วมหารือกับทางกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) กรมศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนในการจำกัดรถต่างประเทศที่จะเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นแม้จะมีการเปิดประชาคมอาเซียนและการเดินทางจะเสรีมากยิ่งขึ้นรถจากต่างประเทศจะสามารถเข้ามาวิ่งในประเทศไทยได้มากขึ้นแต่ทางบช.น.จะไม่อนุญาตให้นำรถต่างประเทศเข้ามาวิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะหากไม่มีการจำกัดและวางมาตรการจะส่งผลให้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ติดขัดมากยิ่งขึ้นรวมทั้งวัฒนธรรมการขับรถไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย พวงมาลัยรถที่อยู่คนละด้านยังเป็นข้อกำจัดที่จะเข้ามาวิ่งในเมืองหลวงที่มีปัญหาการจราจรติดเช่นเพราะจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอีกมาย ดังนั้นทางบช.น.จำเป็นจะต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางว่าจะสามารถดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวได้หรือไม่และจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาแนวทางร่วมกันเพื่อลดกละกระทบที่จะตามมา