พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม โดยคดีแรก ปปง.อายัดทรัพย์สิน พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา กับพวก ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูงเพิ่มเติมอีก 2.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัญชีเงินสดรวม 4 รายการ จากที่ก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูงและเป็นเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนอีกคดีเป็นกรณีการยึดทรัพย์เจ้าของบ่อนการพนันในจังหวัดพิษณุโลกรวม 92 ล้านบาท หลัง ปปง.ตรวจสอบพบว่านางพัณณ์ชิตา หีบนาค และพวก จัดให้มีการเล่นพนัน โดยแต่ละครั้งมีนักพนันเกินกว่า 100 คน และนำเงินที่ได้มาซื้อทรัพย์สิน อาทิ ที่ดิน เครื่องประดับ ทองคำ สะสมไว้เป็นจำนวนมาก เข้าข่ายความผิดมูลฐานพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จึงให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าว
คดีสุดท้าย คณะกรรมการธุรกรรมการเงิน มีมติให้ ปปง.ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินคืนให้กับสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค.จำนวนกว่า 800 ล้านบาท ซึ่ง ปปง.อายัดไว้ หลัง สกสค.ร้องต่อกรมคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย กรณีนายเกษม กลั่นยิ่ง และพวก ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อนุมัติเงินกองทุนของ สกสค.ให้บริษัทเอกชนกู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักประกัน
นอกจากนี้ ปปง.ยังได้จัดทำแบบคำร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายที่เคยร้องอายัดทรัพย์สิน กรณีการถูกหลอกลวงในกรณีต่างๆ ที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานพระราชบัญญัติฟอกเงิน ทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว โดยผู้เสียหายสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.amlo.go.th หรือรับได้ที่สำนักงาน ปปง.โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
ส่วนอีกคดีเป็นกรณีการยึดทรัพย์เจ้าของบ่อนการพนันในจังหวัดพิษณุโลกรวม 92 ล้านบาท หลัง ปปง.ตรวจสอบพบว่านางพัณณ์ชิตา หีบนาค และพวก จัดให้มีการเล่นพนัน โดยแต่ละครั้งมีนักพนันเกินกว่า 100 คน และนำเงินที่ได้มาซื้อทรัพย์สิน อาทิ ที่ดิน เครื่องประดับ ทองคำ สะสมไว้เป็นจำนวนมาก เข้าข่ายความผิดมูลฐานพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จึงให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าว
คดีสุดท้าย คณะกรรมการธุรกรรมการเงิน มีมติให้ ปปง.ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินคืนให้กับสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคคลากรทางการศึกษา หรือ สกสค.จำนวนกว่า 800 ล้านบาท ซึ่ง ปปง.อายัดไว้ หลัง สกสค.ร้องต่อกรมคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย กรณีนายเกษม กลั่นยิ่ง และพวก ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อนุมัติเงินกองทุนของ สกสค.ให้บริษัทเอกชนกู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักประกัน
นอกจากนี้ ปปง.ยังได้จัดทำแบบคำร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายที่เคยร้องอายัดทรัพย์สิน กรณีการถูกหลอกลวงในกรณีต่างๆ ที่เข้าข่ายความผิดมูลฐานพระราชบัญญัติฟอกเงิน ทั้งแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว โดยผู้เสียหายสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.amlo.go.th หรือรับได้ที่สำนักงาน ปปง.โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ