xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ก.รับ 2 อดีตนายตำรวจกองปราบเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - “พล.ต.ท.ฐิติราช” ผบช.ก. รับ 2 ใน 4 อดีตนายตำรวจกองปราบที่ชิงลาออก เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ส่งข้อมูลให้ “ศรีวราห์” รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับต่อไป

วันนี้ (21 พ.ย.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวถึงกระแสข่าวที่พนักงานสอบสวนคดีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไปขอศาลทหารออกหมายจับ ผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก 2 บก.ป. และ พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก 2 บก.ป. ว่า จากการสืบสวนพบว่าทั้งสองเป็นอดีตตำรวจกองปราบปราม 2 ใน 4 นาย ที่ลาออกจากราชการไปก่อนหน้านี้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ต้องนำข้อมูลการสืบสวนนี้ให้ฝ่ายสอบสวนดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ซึ่งในส่วนแนวทางการสืบสวนได้ส่งมอบให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการ รอง ผบ.ตร. ดำเนินการแล้ว

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวต่อว่า ส่วนตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อีก 6 นาย ที่ลาออกไปแล้ว 2 นาย และช่วยราชการอีก 4 นาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง ซึ่งหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็จะดำเนินคดีทันที

ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ แล้ว และยังไม่ได้รับข้อมูลว่ามีการออกหมายจับ อดีตตำรวจสังกัดกองปราบปราม ทั้งสองนายตามที่มีกระแสข่าวออกมา


อนึ่ง เมื่อวันที่ 16 พ.ย.มีรายงานว่า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ได้ลงนามในคำสั่ง บช.ก.ที่ 268/2558 พิจารณาอนุมัติให้ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. และ พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สว.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล. ลาออกจากราชการตามที่ร้องขอ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายตำรวจทั้งสี่นายเป็นนายตำรวจที่ พล.ต.ท.ฐิติราช มีคำสั่งเรียกมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก.ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนพบข้อมูลหลักฐานว่ามีนายตำรวจบางคนในกลุ่มได้ร่วมกระทำความผิดร่วมกับพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงที่เสียชีวิตไปแล้ว หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นการนำรถที่ตรวจยึดเป็นของกลางนำมาใช้ ทั้งยังเบิกทรัพย์สินของทางราชการ เช่น อาวุธปืน วิทยุสื่อสาร และรถยนต์นำมาให้สารวัตรเอี๊ยด และยังร่วมเรียกรับผลประโยชน์สถานบันเทิงอีก โดยมี 2 ใน 4 นายพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการร่วมกันทำลายหลักฐานในคดีตามคำสั่งสารวัตรเอี๊ยด
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น