สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 33.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาน้ำมันคือรายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่อ้างคำพูดของรัฐมนตรีพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ระบุว่าโอเปกมีความตั้งใจร่วมมือกับเหล่าผู้ผลิตอื่นๆในการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบ
รายงานข่าวเป็นการกล่าวอ้างทวีตเตอร์ของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีรายนี้กับสำนักข่าวสกายนิวส์ ซาอุดีอาระเบีย แต่มันก็เพียงพอที่จะจุดชนวนความผกผันครั้งใหญ่ในตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (12 ก.พ.) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง จากแรงหนุนของกลุ่มธนาคาร เช่นเดียวกับตัวเลขค้าปลีกของอเมริกาและการฟื้นตัวอย่างมากของราคาน้ำมัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 313.66 จุด (2.00 เปอร์เซ็นต์) ปิด 15,973.84 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 35.70 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,864.78 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 70.67 จุด (1.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,337.51 จุด
ภาคธนาคารเคลื่อนไหวร้อนแรงที่สุด หลังจากดิ่งลงอย่างหนักตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยซิตีกรุ๊ป ปิดบวก 7.3 เปอร์เซ็นต์ เจพีมอร์แกน เชส ปิดบวก 8.3 เปอร์เซ็นต์ และแบงค์ออฟอเมริกา ปิดบวก 7.1 เปอร์เซ็นต์
แรงสนับสนุนสำคัญของภาคธนาคารได้แก่ รายงานข่าวที่ระบุว่านายเจมี ไดมอน ซีอีโอ เจพี มอร์แกน เตรียมควักเงินตัวเอง 26 ล้านดอลลาร์ เข้าซื้อหุ้นของจีพีมอร์แกน และความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าความสามารถของระบบธนาคารอเมริกาสามารถยืนหยัดรับมือกับภัยคุกคามทางเศรษฐกิจได้
นอกจากนี้แล้ว วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่ายอดค้าปลีกในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่กลับมาฟื้นตัวแรงอีกครั้ง
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (12 ก.พ.) ปรับลงแรง หลังการฟื้นตัวของตลาดทุน ทำให้นักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,239.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สรุปดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (ศุกร์ 12 ก.พ.)
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด, +2.00%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด, +1.66%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด, +1.95%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,995.06 จุด เพิ่มขึ้น 98.35 จุด, +2.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,967.51 จุด เพิ่มขึ้น 214.64 จุด, +2.45%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด, +3.08%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 22,986.12 จุด เพิ่มขึ้น 34.29 จุด, +0.15%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,643.74 จุด ลดลง 0.21 จุด, -0.01%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,539.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด, +0.07%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,714.39 จุด ลดลง 61.47 จุด, -1.29%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 18,319.58 จุด ลดลง 226.22 จุด, -1.22%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,654.45 จุด ลดลง 8.98 จุด, -0.13%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,835.28 จุด ลดลง 26.26 จุด, -1.41%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,952.61 จุด ลดลง 760.78 จุด, -4.84%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,765.30 จุด ลดลง 55.80 จุด, -1.16%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,816.60 จุด ลดลง 54.30 จุด, -1.11%
ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาน้ำมันคือรายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่อ้างคำพูดของรัฐมนตรีพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ระบุว่าโอเปกมีความตั้งใจร่วมมือกับเหล่าผู้ผลิตอื่นๆในการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบ
รายงานข่าวเป็นการกล่าวอ้างทวีตเตอร์ของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีรายนี้กับสำนักข่าวสกายนิวส์ ซาอุดีอาระเบีย แต่มันก็เพียงพอที่จะจุดชนวนความผกผันครั้งใหญ่ในตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (12 ก.พ.) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง จากแรงหนุนของกลุ่มธนาคาร เช่นเดียวกับตัวเลขค้าปลีกของอเมริกาและการฟื้นตัวอย่างมากของราคาน้ำมัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 313.66 จุด (2.00 เปอร์เซ็นต์) ปิด 15,973.84 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 35.70 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,864.78 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 70.67 จุด (1.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,337.51 จุด
ภาคธนาคารเคลื่อนไหวร้อนแรงที่สุด หลังจากดิ่งลงอย่างหนักตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยซิตีกรุ๊ป ปิดบวก 7.3 เปอร์เซ็นต์ เจพีมอร์แกน เชส ปิดบวก 8.3 เปอร์เซ็นต์ และแบงค์ออฟอเมริกา ปิดบวก 7.1 เปอร์เซ็นต์
แรงสนับสนุนสำคัญของภาคธนาคารได้แก่ รายงานข่าวที่ระบุว่านายเจมี ไดมอน ซีอีโอ เจพี มอร์แกน เตรียมควักเงินตัวเอง 26 ล้านดอลลาร์ เข้าซื้อหุ้นของจีพีมอร์แกน และความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าความสามารถของระบบธนาคารอเมริกาสามารถยืนหยัดรับมือกับภัยคุกคามทางเศรษฐกิจได้
นอกจากนี้แล้ว วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่ายอดค้าปลีกในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่กลับมาฟื้นตัวแรงอีกครั้ง
ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (12 ก.พ.) ปรับลงแรง หลังการฟื้นตัวของตลาดทุน ทำให้นักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,239.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สรุปดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (ศุกร์ 12 ก.พ.)
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด, +2.00%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด, +1.66%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด, +1.95%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,995.06 จุด เพิ่มขึ้น 98.35 จุด, +2.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,967.51 จุด เพิ่มขึ้น 214.64 จุด, +2.45%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,707.60 จุด เพิ่มขึ้น 170.63 จุด, +3.08%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 22,986.12 จุด เพิ่มขึ้น 34.29 จุด, +0.15%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,643.74 จุด ลดลง 0.21 จุด, -0.01%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,539.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด, +0.07%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,714.39 จุด ลดลง 61.47 จุด, -1.29%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 18,319.58 จุด ลดลง 226.22 จุด, -1.22%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,654.45 จุด ลดลง 8.98 จุด, -0.13%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,835.28 จุด ลดลง 26.26 จุด, -1.41%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,952.61 จุด ลดลง 760.78 จุด, -4.84%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,765.30 จุด ลดลง 55.80 จุด, -1.16%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,816.60 จุด ลดลง 54.30 จุด, -1.11%