น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 35.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2009 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระดับเดียวกับเมื่อครั้งเกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2008
ตลอดทั้งสัปดาห์สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปิดลบเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลอนดอน ปิดลบเกือบ 12 เปอร์เซ็นต์
รายงานประจำเดือนของทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เตือนเมื่อวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของโลกน่าจะยังเพิ่มสูงขึ้นต่อไปจนถึงปลายปี 2016
หน่วยงานแห่งนี้ระบุด้วยว่ากำลังผลิตของโอเปกในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนกลุ่มประเทศนอกสมาชิกโอเปกมีกำลังผลิตคงที่ สวนทางกับการเติบโตของอุปสงค์ที่ชะลอตัว
ราคาน้ำมันที่ทรุดอย่างหนักฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงตามๆ กัน ส่งผลให้วอลล์สตรีทร่วงแรงในวันศุกร์ (11 พ.ย.) ขณะที่ภาคอื่นๆก็แกว่งตัวสู่แดนลบ ก่อนหน้าการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 309.54 จุด (1.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.265.21 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 39.86 จุด (1.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,012.37 จุด แนสแดค ลดลง 111.71 จุด (2.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,933.47 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันศุกร์(11ธ.ค.) ด้วย เชฟรอน และเอ็กซอนโมบิล 2 สมาชิกดาวโจนส์ ปิดลบ 3.2 เปอร์เซ็นต์ และ 1.8 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ส่วนชลัมเบอร์เกอร์ ลดลง 2.3 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาทองคำปิดบวกในวันศุกร์ (11 ธ.ค.) จากแรงช้อนซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำของนักลงทุน หลังตลาดทุนร่วงระราว แต่หากรวมตลอดทั้งสัปดาห์ก็ยังปรับลดเป็นสัปดาห์ 7 ใน 8 สัปดาห์หลังสุด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,075.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สรุปดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (ศุกร์ 11 ธ.ค.)
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,265.21 จุด ลดลง 309.54 จุด, -1.76%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,012.37 จุด ลดลง 39.86 จุด, -1.94%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,933.47 จุด ลดลง 111.70 จุด, -2.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,549.56 จุด ลดลง 85.50 จุด, -1.84%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,340.06 จุด ลดลง 258.87 จุด, -2.44%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,952.78 จุด ลดลง 135.27 จุด, -2.22%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,044.43 จุด ลดลง 207.89 จุด, -0.82%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,834.63 จุด ลดลง 13.83 จุด, -0.49%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,640.14 จุด ลดลง 8.51 จุด, -0.52%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,393.52 จุด ลดลง 72.69 จุด, -1.63%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,464.05 จุด ลดลง 240.56 จุด, -1.11%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,735.01 จุด ลดลง 85.59 จุด, -1.25%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,434.58 จุด ลดลง 20.91 จุด, -0.61%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,948.62 จุด ลดลง 3.45 จุด, -0.18%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,230.48 จุด เพิ่มขึ้น 183.93 จุด, +0.97%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,115.89 จุด ลดลง 100.28 จุด, -1.22%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,029.50 จุด ลดลง 8.20 จุด, -0.16%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,078.60 จุด ลดลง 8.90 จุด, -0.17%
ตลอดทั้งสัปดาห์สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปิดลบเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลอนดอน ปิดลบเกือบ 12 เปอร์เซ็นต์
รายงานประจำเดือนของทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เตือนเมื่อวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของโลกน่าจะยังเพิ่มสูงขึ้นต่อไปจนถึงปลายปี 2016
หน่วยงานแห่งนี้ระบุด้วยว่ากำลังผลิตของโอเปกในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนกลุ่มประเทศนอกสมาชิกโอเปกมีกำลังผลิตคงที่ สวนทางกับการเติบโตของอุปสงค์ที่ชะลอตัว
ราคาน้ำมันที่ทรุดอย่างหนักฉุดให้หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงตามๆ กัน ส่งผลให้วอลล์สตรีทร่วงแรงในวันศุกร์ (11 พ.ย.) ขณะที่ภาคอื่นๆก็แกว่งตัวสู่แดนลบ ก่อนหน้าการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
ดาวโจนส์ ลดลง 309.54 จุด (1.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.265.21 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 39.86 จุด (1.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,012.37 จุด แนสแดค ลดลง 111.71 จุด (2.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,933.47 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันศุกร์(11ธ.ค.) ด้วย เชฟรอน และเอ็กซอนโมบิล 2 สมาชิกดาวโจนส์ ปิดลบ 3.2 เปอร์เซ็นต์ และ 1.8 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ส่วนชลัมเบอร์เกอร์ ลดลง 2.3 เปอร์เซ็นต์
ด้านราคาทองคำปิดบวกในวันศุกร์ (11 ธ.ค.) จากแรงช้อนซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำของนักลงทุน หลังตลาดทุนร่วงระราว แต่หากรวมตลอดทั้งสัปดาห์ก็ยังปรับลดเป็นสัปดาห์ 7 ใน 8 สัปดาห์หลังสุด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,075.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สรุปดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก (ศุกร์ 11 ธ.ค.)
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,265.21 จุด ลดลง 309.54 จุด, -1.76%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,012.37 จุด ลดลง 39.86 จุด, -1.94%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,933.47 จุด ลดลง 111.70 จุด, -2.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,549.56 จุด ลดลง 85.50 จุด, -1.84%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,340.06 จุด ลดลง 258.87 จุด, -2.44%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,952.78 จุด ลดลง 135.27 จุด, -2.22%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,044.43 จุด ลดลง 207.89 จุด, -0.82%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,834.63 จุด ลดลง 13.83 จุด, -0.49%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,640.14 จุด ลดลง 8.51 จุด, -0.52%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,393.52 จุด ลดลง 72.69 จุด, -1.63%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,464.05 จุด ลดลง 240.56 จุด, -1.11%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,735.01 จุด ลดลง 85.59 จุด, -1.25%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,434.58 จุด ลดลง 20.91 จุด, -0.61%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,948.62 จุด ลดลง 3.45 จุด, -0.18%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,230.48 จุด เพิ่มขึ้น 183.93 จุด, +0.97%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,115.89 จุด ลดลง 100.28 จุด, -1.22%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,029.50 จุด ลดลง 8.20 จุด, -0.16%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,078.60 จุด ลดลง 8.90 จุด, -0.17%
